สืบ ตม.6 และ ตม.จ.นราธิวาส บูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จับกุมบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และขยายผลจับกุมเครือข่าย
วันที่ 26 มี.ค.64 เวลา 10.00 น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6,พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3,พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6,พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6 ได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามนโยบาย ผบ.ตร. โดยเคร่งครัด นำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในการป้องกันปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และร่วมแถลงข่าวจับกุมคดีที่น่าสนใจ ดังนี้
จนท.ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.6 และ จนท.ชุดสืบสวน ตม.จ.นราธิวาส ได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณด่านตรวจถาวรโคกมะเฟือง ม.1 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อสกัดกั้นการก่อเหตุลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร ขับมายังบริเวณที่ด่านตรวจฝั่งขาออกจาก อ.ตากใบ ไป อ.เมืองนราธิวาส เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นบริเวณที่นั่งตอนหลังของรถยนต์คันดังกล่าว มีชายผิวดำลักษณะรูปพรรณคล้ายคนอินเดียนั่งอยู่ จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ จากการตรวจสอบภายในรถ พบนายอัมรี อายุ 27 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับขี่ นายอาบีดี อายุ 34 ปี สัญชาติไทย นั่งข้างคนขับด้านหน้า และพบบุคคลต่างด้าว จำนวน 4 คน นั่งอยู่ที่นั่งตอนหลังของรถ ทั้งหมดเป็นบุคคลสัญชาติมาเลเซีย ถือหนังสือเดินทางประเทศมาเลเซีย เมื่อตรวจสอบหนังสือเดินทางไม่พบข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ลักลอบเข้ามาประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ ข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก (ไม่ทราบสถานที่แน่ชัด) และได้มาพักรอที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สอบถามนายอัมรี และนายอาบีดี ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายวงค์สถิต หรือนายโจ ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทางโทรศัพท์ ให้ไปรับคนต่างด้าวจากนางซีตีมารือแย หรือ ก๊ะยัง ที่ อ.ตากใบ แล้วให้ไปส่งต่อพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยตกลงค่าจ้างเป็นเงิน 6,000 บาท จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยรถยนต์ของกลางนำส่ง พงส.สภ.ตากใบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสืบสวน ขยายผลทราบว่าบ้านพักที่คนต่างด้าวสัญชาติมาเลเซีย ได้มาพักรอระหว่างเดินทาง ที่ อ.ตากใบ คือบ้านพักต้องสงสัยใน ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านของนางซีตีมารือแย
ต่อมา จนท.ชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.6 และ จนท.ชุดสืบสวน ตม.จ.นราธิวาส ได้บูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ โดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก พ.ศ.2547 เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยดังกล่าวพบ นายมะยารี อายุ 46 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าบ้านหลังดังกล่าวและเป็นผู้นำตรวจค้น ส่วนนางซีตีมารือแย ได้ออกไปทำธุระนอกบ้านก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึง จากการตรวจค้นภายในบ้านพบบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 2 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด รับสารภาพว่าได้ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ ข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก (ไม่ทราบสถานที่แน่ชัด) สอบถามนายมะยารี ให้การว่าภรรยาของตน คือ นางซีตีมารือแย เป็นผู้พาคนต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งสองคนเข้ามาพักที่บ้านเพื่อรอเดินทางกลับประเทศเมียนมา จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน นำส่ง พงส.สภ.ตากใบ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส 30 ได้เชิญตัวนางซีตีมารือแย ไปที่ศูนย์ซักถามกรมทหารพรานที่ 46 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส และ จนท.ชุดจับกุมได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่าย ต่อมา จนท.กก.สส.บก.ตม.6,จนท.ตม.จ.นราธิวาส ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.ตากใบ ทำการจับกุมนางซีตีมารือแย หรือก๊ะยัง อายุ 42 ปี สัญชาติไทย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ จ 104/2564 ลง 17 มี.ค.64 ในฐานความผิด “ร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุม” ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 48 ม.7 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ส่ง พงส.สภ.ตากใบ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จนท.ตร.สภ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เข้าทำการจับกุมนายวงค์สถิต หรือนายโจ อายุ 36 ปี สัญชาติไทย ตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาสที่ จ 105/2564 ลง 17 มี.ค.64 ในฐานความผิด “ร่วมกันซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุม” จับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 168/1 ม.1 ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ควบคุมตัว ส่ง พงส.สภ.ตากใบ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สรุป การดำเนินการเกี่ยวกับเครือข่ายนี้
1.จับกุมผู้ต้องหาที่เป็นบุคคลต่างด้าว ในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 6 ราย แยกเป็น สัญชาติมาเลเซีย 4 ราย สัญชาติเมียนมา จำนวน 2 ราย
2.จับกุมผู้ต้องหาคนไทย จำนวน 5 ราย ในข้อหาช่วยเหลือฯ
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีนโยบายในการป้องกันปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในทุกรูปแบบ เพื่อสนองนโยบายของของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนคนไทย ห้ามเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการเหล่านี้ เพราะอาจถูกจับกุมดำเนินคดี และรับโทษตามกฎหมาย หากพบหรือทราบข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โทร.1178 หรือที่ www.immigration.go.th
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน