เกษตรกรเฮ กรมประมงพัฒนาสูตรอาหารลดต้นทุนช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกเบื้องต้น
สามารถลดต้นทุนค่าอาหารได้กว่า 30-40 เปอร์เซ็นต์
วันที่ 14 มีนาคม 2564 นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง นำคณะนักวิชาการและเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจเยี่ยมฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาดุกของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อติดตามผลการดำเนินงานลดต้นทุนด้วยสูตรอาหารของกรมประมงภายหลังจากการฝึกอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรได้นำไปประยุกต์ใช้ ซึ่งพบว่าสัตว์น้ำมีการเจริญเติบโตที่ดีและมีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดด้วย
ทั้งนี้นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงได้มุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนางานวิจัยด้านการประมงสาขาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะในเรื่องของการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต กรมฯ จึงมีนโยบายส่งเสริมให้นักวิจัยได้เร่งสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ และนำงานวิจัยมาปรับประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับวิถีการประกอบอาชีพด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตสัตว์น้ำให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยคำนึงถึงการลดต้นทุนในการผลิต แต่ยังคงรักษาคุณภาพและมาตรฐานเพื่อเพิ่มมูลค่าและขีดความสามารถในการแข่งขัน
สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรีครั้งนี้ เป็นการติดตามงานที่กรมประมงได้นำผลงานวิจัยเรื่อง “การใช้หัวไก่สด หัวไก่หมักในการเลี้ยงปลาดุกลูกผสม” มาดัดแปลงสูตรเพื่อผลิตเป็นอาหารที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงปลาดุกในฟาร์มเพาะเลี้ยงของเกษตรกร โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น และมีราคาถูก ที่กรมประมงได้ฝึกอบรมให้เกษตรกรได้นำสูตรไปประยุกต์ใช้ ผลปรากฏว่า ปลาดุกมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีและคุณภาพเป็นไปตามความต้องการของตลาด โดยปลาดุกมีขนาดโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับอาหารที่ใช้เดิมซึ่งกรมประมงจะเร่งผลักดันให้มีการพัฒนางานวิจัยเพื่อลดต้นทุนในการผลิตเสริมสร้างประสิทธิภาพสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ ต่อไป เพื่อให้ภาคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของไทยมีความเข้มแข็ง และเกษตรกรมีความมั่งคงในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน
ขณะที่นางพิศมัย สมสืบ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์น้ำ กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยงานได้เร่งวางแนวทางการนำงานวิจัยมาช่วยลดต้นทุนในการผลิตอาหารสำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เพราะถือเป็นต้นทุนการผลิตส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 60และจากการรับทราบปัญหาของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกในเขตพื้นที่ตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี กรมประมงจึงได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลละหาร จังหวัดนนทบุรี จัดฝึกอบรมโครงการ “การผลิตอาหารสัตว์น้ำเพื่อลดต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์น้ำ” ให้แก่เกษตรกรจำนวน 50 ราย เมื่อช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา โดยได้นำองค์ความรู้จากงานวิจัยถ่ายทอดให้เกษตรกรได้ทำการปรับปรุงสูตรอาหารในการเลี้ยงปลาดุกเพื่อให้สามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ซึ่งเดิมเกษตรกรใช้โครงไก่บดและเศษวัตถุดิบที่เหลือจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น เศษขนมปัง เศษอาหารไก่ กากมันวัว มาผสมรวมกัน โดยไม่มีสัดส่วนที่แน่นอน ทำให้เวลาให้อาหารปลาในบ่อ อาหารจะเหลวละลายน้ำเร็ว ต้องใช้ปริมาณอาหารจำนวนมาก และยังส่งผลให้น้ำในบ่อเลี้ยงเน่าเสียได้ง่ายอีกด้วย แต่หลังจากที่เกษตรกรได้นำหลักความรู้ในการฝึกอบรมไปใช้ในการผลิตอาหารสัตว์น้ำอย่างเหมาะสม ก็พบว่าสามารถลดต้นทุนค่าอาหารในการเลี้ยงได้ถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์
โดยสูตรอาหารสำหรับเลี้ยงปลาดุกอย่างง่ายที่กรมประมงแนะนำ มีส่วนผสมของวัตถุดิบต่าง ๆ โดยอาหารเลี้ยงปลาดุกที่ทำการวิจัยในสูตรกรมประมง10 กิโลกรัมจะประกอบด้วยอาหารปลานิล/ปลาดุกโปรตีน 30-32% 3.2 กิโลกรัมโครงไก่บดสด8.8 กิโลกรัม (2.2 กิโลกรัมแห้ง)เศษขนมปัง/เศษอาหารไก่4.5 กิโลกรัม ยีสต์ขนมปัง50 กรัม. วิตามินและแร่ธารวม5-10กรัม
ด้านนายสะอัส อินเดริด อายุ 71 ปี ปราชญ์เกษตรประจำปี 2562 และเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาดุก ตำบลละหาร อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรีบอกว่าหลังจากที่ได้เข้ารับการฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับปรุงสูตรอาหารในการเลี้ยงปลาดุกจากกรมประมง ปรากฏว่าจากการใช้สัดส่วนในการผสมวัตถุดิบที่เหมาะสมแล้วนำมาบดรวมกันทำให้อาหารมีความเหนียวมากยิ่งขึ้น และเมื่อนำไปให้ปลาในบ่อเลี้ยงจะไม่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สามารถลดสาเหตุของน้ำเสียและลดการเปลี่ยนถ่ายน้ำได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญช่วยลดทุนในการผลิตอาหารได้จากเดิมมาก ใช้ระยะเวลาการเลี้ยงเพียง 5 เดือนสามารถจับผลผลิตเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้เลี้ยงครัวเรือนได้เป็นอย่างดี