“สามารถ” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจคนในชุมชน พร้อมประชุมติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนพื้นที่กรุงเทพมหานคร

“สามารถ” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจคนในชุมชน

พร้อมประชุมติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนพื้นที่กรุงเทพมหานคร

 

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา10.00 น. นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน การประชุมกำกับติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนพื้นที่กรุงเทพมหานคร และถ่ายทอดนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี,พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้เล็งเห็นปัญหาของยาเสพติดเป็นปัญหาที่เป็นวาระแห่งชาติ และเห็นควรให้แก้ไขอย่างจริงจังโดยภาครัฐต้องร่วมมือกับชุมชนจึงจะประสบผลสำเร็จอย่างแท้จริง

โดยมี นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ์และเสรีภาพ,นายสุนทร ชื่นศิริ ผอ.ปปส.กทม.:นายแพทย์สมชาย ตรีทิพย์สถิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมร่วมรับฟังรายงานสถานการณ์ปัญหายาเสพติดและผลการดำเนินงานด้านการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ พร้อมมอบสื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ และน้ำดื่ม สำนักงาน ปปส.ให้แก่ชุมชน

ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้อำนวยการเขตตลิ่งชัน,ผู้แทน สน.บางเสาธง,สน.ตลิ่งชัน,ประธานชุมชน,คณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินเขตตลิ่งชัน,ศูนย์บริการสาธารณสุข 49,วัดชัยพฤกษมาลา,ผอ.ปพ.และเจ้าหน้าที่ ปปส.กทม.รวม 45 คน ณ วัดทองบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน

นายสามารถฯ กล่าวว่า การแก้ปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งตอนนี้ทางสภาผู้แทนราษฏร ได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขปัญหาแบบครบวงจร ทั้งการบำบัดฟื้นฟูและเยียวยา ก็พยายามหาทุกมาตรการในการแก้ปัญหานี้ โดยทุกวันนี้เรามีกองทุนแม่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชทานทุนประเดิมเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เป็นมหันตภัยร้ายต่อทำลาย สุขภาพร่างกาย ทำลายระบบเศรษฐกิจ สังคม และเป็นต้นเหตุของปัญหาอาชญากรรม

“ภูมิคุ้มกันการแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างยั่งยืน คือ ความรักความอบอุ่นของครอบครัว ซึ่งขอยกตัวอย่างประเทศไทยที่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิท-19 ได้เป็นผลสำเร็จ เป็นผลมาจาก การเอาใจใส่ดูแลจาก (อสม.) และสมาชิกในชุมชนช่วยกันดูแลสมาชิกในชุมชนของตนเอง ดังนั้นปัญหายาเสพติดในชุมชนก็ต้องควบคุมได้เช่นกัน ตราบใดที่ไม่มีคนค้ายาเสพติดก็จะไม่มีผู้เสพ เมื่อไม่มีผู้เสพก็จะไม่มีผู้ขาย”

นายสามารถฯ ยังได้ให้กำลังใจเครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งวันนี้ร่วมกันเปิดเวทีแก้ไขปัญหายาเสพติดนับเป็นการ “สืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโครงการจิตอาสาพระราชทานขึ้นมาก็เพื่อเป็นการรวมความสมัครสมานสามัคคีของคนไทยทุกคนในการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อพัฒนาพื้นที่ในชุมชนต่างๆ ให้มีความเจริญ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างถาวร เช่นการเฝ้าระวังชุมชนของตนเองให้ปลอดยาเสพติด”

ช่วงท้าย นายสามารถฯ ได้พูดถึงภารกิจกระทรวงยุติธรรมในเรื่อง ให้ประชาชนรู้จักหน้าที่พลเมือง ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ รู้จักสิทธิมนุษยชนในการเคารพสิทธิมนุษยชน เคารพกฏหมาย มีกองทุนยุติธรรมให้การช่วยเหลือคนจนในกาประกันตัวสู้คดี ทั้งนี้ยังมี พรบ.ไกล่เกลี่ย ในการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี เพื่อสร้างให้ชุมชนเข้มแข็งลดความขัดแย้งในชุมชน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เน้นให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมโดยง่ายและไม่มีค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้นายสามารถฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมชนพร้อมกับ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ ผอ.เขตตลิ่งชัน ผกก.สน บางเสาธง และ ประธานชุมชน ร่วมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจคนในชุมชน และ ดูสภาพชุมชนว่ามีอะไรที่ขาดตกบกพร่องเพื่อได้แก้ไขปรับปรุงให้ชุมห่างไกลจากยาเสพติด

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน