“อาจารย์บิ๊ก” ชี้ทำบุญที่ถูกต้องจะช่วยเติมในส่วนที่ขาด บูชา “วัตถุมงคล” ที่มีพุทธคุณครอบจักรวาล จะช่วยให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น
“อาจารย์บิ๊ก” ชี้แนวทางทำบุญอย่างไรให้พ้นทุกข์ ทำบุญเหมือนกัน แต่เหตุใดจึงสัมฤทธิ์ผลต่างกัน เชื่อว่า “นกฮูก” เป็นสัญลักษณ์แห่งสติปัญญา ความโชคดี และเจ้าแห่งความสุข
ทุกชีวิตที่เกิดมาล้วนต้องพบความเปลี่ยนแปลงในบางช่วงของการใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ ความเปลี่ยนแปลงมีหลักเพียงสองอย่างคือ ช่วงชีวิตดีมีความสุข และช่วงชีวิตที่ตกต่ำ มีปัญหารุมเร้า อาจมีความต่างตรงที่ดีขึ้นมากหรือดีขึ้นเล็กน้อย หรือช่วงชีวิตตกต่ำมากหรือตกต่ำเล็กน้อย เมื่อเกิดทุกข์ หลายคนจะสรรหาสิ่งศักดิ์สิทธิ หรือวัตถุมงคลเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ แต่การใช้ชีวิตทางโลกตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่ต้องเกิดขึ้นควบคู่กับหลักธรรม ตามพุทธศาสนา คือความเปลี่ยนแปลงทางวัฎจักรของชีวิตมนุษย์ ที่เกิดกับทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อาจารย์สัมฤทธิ์ ออประเสริฐ หรือที่รู้จักในนาม “อาจารย์บิ๊ก” สำนักสัมฤทธิ์ ๑๐๘ เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่จำความได้ทุกครั้งที่โรงเรียนปิดเทอมภาคฤดูร้อนจะขอบวชเณรติดตามคุณตาซึ่งบวชพระมานานหลายพรรษามาก อีกทั้งมีความคิดว่าในพุทธศาสนามีหลายสิ่งที่เรายังเข้าไม่ถึง มีอะไรอีกหลายอย่างที่จะต้องศึกษาค้นคว้า เป็นการศึกษาที่สนุกเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีวันจบ การที่เราอยู่ใกล้พุทธศาสนาทำให้เราเชื่อว่าบุญและบาปมีจริง เมื่อมีพื้นฐานความเชื่อเรื่องบุญและบาป จึงอยากพิสูจน์ต่อไปว่า สิ่งเร้นลับอย่างเช่น วิชาคงกระพันชาตรี หนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้า รวมถึงการสื่อสารกับสิ่งที่เรามองไม่เห็นในอีกมิติที่ต่างจากมนุษย์นั้น มีจริงหรือไม่
ย้อนหลังไปเมื่อครั้งที่บวชเป็นพระภิกษุ กว่าสามพรรษาที่มีโอกาสเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ก่อนสึกมาถือครองเพสฤาษีจนถึงปัจจุบัน ได้มีโอกาสศึกษาในสิ่งเร้นลับอย่างจริงจังทำให้รู้และมั่นใจได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องจริง ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้สามารถพิสูจน์ได้ แต่คนที่จะรู้จริงหรือพิสูจน์ได้นั้นไม่เกี่ยวกับใครอื่น แต่อยู่ที่ตัวเราเองว่า เราสามารถเข้าถึงหรือไม่ การศึกษาในสิ่งเร้นลับเปรียบเหมือนคลื่นวิทยุ เหมือนอากาศที่หายใจเข้า-ออกทุกวินาที เหมือน Wifi ทุกคนรู้ว่ามีจริง และทุกคนได้ใช้ประโยชน์แตกต่างกัน แต่ไม่มีใครสามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้ ตามหลักวิทยาศาสตร์ “แรงศรัทธา” จะทำให้มีพลังเกิดความเพียรพยายาม และอุทิศตัวทุ่มเทเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงในเรื่องที่เราสนใจ แต่ “แรงศรัทธา” ในหลักพุทธศาสนา การสื่อสารเพื่อเข้าถึงสิ่งเร้นลับ ล้วนเกิดจากการเก็บสะสมบุญกุศลของแต่ละบุคคล ดังนั้น “พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์” จึงเป็นความเหมือนในความต่างที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริง
อาจารย์บิ๊ก กล่าวและว่า ในทุกชีวิตมีเพียง 3 สิ่ง คือ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เราแก้ไขอะไรไม่ได้ อนาคตคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ดังนั้น เราต้องกำหนดอนาคตในวันข้างหน้าด้วยตัวเองที่ปัจจุบัน มีข้อคิดที่ว่า วันนี้เราปลูกต้นผักชี ในอนาคตเราก็ต้องได้กินผักชี เพราะว่าต้นผักชีจะไม่กลายพันธ์ไปเป็นต้นมะนาว ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อเราหุงข้าวเจ้า ก็ต้องได้กินข้าวเจ้า เพราะข้าวเจ้าที่เราหุงไม่กลายไปเป็นข้าวเหนียวแน่นอน การที่ผลลัพธ์ของชีวิตคนเราต่างกัน หรือการที่หลายคนทำงานเหมือนกันแต่สัมฤทธิ์ผลต่างกัน เกิดจากต้นทุนชีวิตคนเราต่างกัน ความสามารถต่างกัน การใส่ใจในรายละเอียด ความเข้าใจและการทุ่มเทในสิ่งที่ทำต่างกัน หลักการคิดแบบง่ายๆ ทำไมร้านอาหารบางแห่งจึงหุงข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียวที่สามารถเก็บความหอม นุ่ม ได้นานกว่าร้านอื่นๆ นั่นเป็นเพราะการลงรายละเอียดและการใส่ใจในงานที่ทำไม่เหมือนกันนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทุกข์ หรือ สุขล้วนเกิดจากตัวเราเองเป็นผู้กำหนดชีวิตในอนาคตทั้งสิ้น
การที่มีลูกศิษย์เข้ามาหาที่สำนักสัมฤทธิ์ ๑๐๘ ทุกคนล้วนแบกความทุกข์ต่างๆ นานาเข้ามา ทางออกแห่งปัญหามิใช่ว่าต้องบูชาวัตถุมงคลเสมอไป เครื่องรางหรือวัตถุมงคลจะช่วยเสริมให้ชีวิตเกิดความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น แต่มิใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือ “การดึงสติ” ให้กลับอยู่กับตัวเองก่อน ยังรู้จักตัวเองไหม มีปัญหาอะไร ทุกข์เกิดจากอะไร แล้วจึงใช้วิศวกรรมย้อนกลับ ให้รู้ต้นเหตุแห่งทุกข์ ที่มาของปัญหา มีเหตุก็ต้องมีผล บางครั้งอาจรู้ว่าสาเหตุมาจากไหน ปัญหาเกิดจากอะไร แต่การที่เจ้าตัวไม่ยอมรับความเป็นจริง หรือทำใจไม่ได้ นั่นเป็นเพราะไม่มีสติ “ความรู้กับสติ เป็นของคู่กัน” จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ การมีความรู้แต่ไม่มีสติก็อาจไปเบียดเบียนคนอื่น เป็นคนเห็นแก่ตัวได้เช่นกัน คนที่มีความรู้คู่สติจะทำให้เกิดความสมดุลตามธรรมชาติ สิ่งแปลกปลอมจากธรรมชาติล้วนเกิดจากฝีมือของมนุษย์ ในสังคมปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ชอบใช้อารมณ์เหนือเหตุผล ดังนั้น ต้องอยู่ให้ได้ ปล่อยวางให้เป็น พึงระลึกไว้เสมอว่า “สติมา ปัญญาเกิด เมื่อเกิดปัญญาก็จะมีสติ มีงาน มีเงิน มีความสุข” เป็นหลักของธรรมะหรือธรรมชาติ
อาจารย์บิ๊ก กล่าวต่อไปว่า “การทำบุญ” ของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ดังนั้น ลูกศิษย์ที่เข้ามาต้องตรวจเช็คว่าขาดอะไร ควรทำบุญแบบไหนจึงส่งเสริมและเติมเต็มบุญในส่วนที่ขาดหายไป ในแต่ละคนมีผลกรรมต่างกัน หลายคนทำบุญเหมือนกันแต่ได้รับอานิสงค์ต่างกัน หรืออาจไม่ได้รับอานิสงค์ใดๆเลย นั่นเป็นเพราะยังทำบุญไม่ถูกกับสิ่งที่ตัวเองขาดหายไป การทำบุญคือการสะสมต้นทุนบุญกุศลที่ไม่มีใครแบ่งไปได้ ดังนั้น การทำบุญต้องทำด้วยใจบริสุทธิ์ ทำบุญแบบไม่หวังผล ซึ่งแต่ละคนควรทำบุญด้วยอะไร หรือต้องแก้กรรมแบบไหน ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องตรวจเช็คด้วยตัวเอง ผลานิสงส์ที่ได้จากการทำบุญที่ถูกต้องจะช่วยเสริมเติมเต็มในส่วนที่ขาด ผสานกับการบูชา “วัตถุมงคล” ที่มีพุทธคุณครอบจักรวาล มีความอุดมสมบูรณ์ในทุกด้าน จะช่วยให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น
จากการทำสมาธิจนเข้าถึงและสื่อสารเรื่องราวของ “เทพรัตติกาล” หรือ “นกฮูก” ทำให้เกิดเป็นความชื่นชอบ ความศรัทธา และมีความเชื่อมั่นว่านกฮูกจะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับผู้ที่มีความเคารพศรัทธา จากการศึกษาพบว่าคนญี่ปุ่น มีความเชื่อว่า นกฮูก เป็นเครื่องรางนำโชคลาภ ความมั่งมีศรีสุข ถ้าใครมีไว้ติดตัว หรือ มีไว้ในบ้าน ครอบครัวจักอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ไม่ขัดสน ในส่วนของคนจีน เชื่อว่า นกฮูกเป็นสัญลักษณ์แห่ง สติ ปัญญา ความเฉลียวฉลาด ถ้ามีนกฮูกไปเกาะที่บ้านหลังใด บ้านนั้นจะมีข่าวดี เป็นความเชื่อมาจากโบราณกาล ส่วนชาวฮินดู มีความเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งสติปัญญา นกฮูก เป็นพาหนะของพระแม่ลักษมี ซึ่งเป็นหนึ่งในตรีมูรติ เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ชาวกรีกโบราณ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเทพีอธีนา เทพีแห่งสติปัญญาและการสงคราม นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ของการสอน และสถาบันการศึกษา ส่วนชาวยิปซี เชื่อกันว่านกฮูก เป็นสัตว์ที่มองกาลไกล ว่องไว รู้เท่าทันคน
อาจารย์บิ๊ก กล่าวและว่า หากเรามองถึงการดำรงชีวิตของนกฮูกแล้ว จะพบสิ่งน่าสนใจหลายอย่าง ด้วยเหตุนี้ ชาวโลกจึงถือว่า “นกฮูก” เป็นสัญลักษณ์แห่งสติปัญญา ความสุขุมรอบคอบ ความร่ำรวย การพกติดตัวจะทำให้ โชคดี มีลาภผลไม่ขาดแคลน เป็นมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี เจ้าแห่งความสุข สัญลักษณ์แห่งความหยั่งรู้ ฉลาด และมีความอุดมสมบูรณ์ ช่วยเรื่องร้ายกลับกลายเป็นดี ป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ และยังนำพาผู้ที่ศรัทธาให้รอดพ้นจากความทุกข์ได้ สำหรับเครื่องราง “ปู่รัตติกาล และนกฮูก” ตามสายวิชาจากสำนักสัมฤทธิ์ ๑๐๘ จะได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวต่างชาติ อาทิ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเก๊า มาเลเซีย และมีส่งประเทศในแถบยุโรปบ้าง เมื่อมีการร้องขอให้สร้างเพื่อส่งต่อให้กับผู้ที่มีความศรัทธาในปู่รัตติกาล หรือนกฮูก
อาจารย์บิ๊ก กล่าวทิ้งท้ายว่า การแก้ปัญหาในทางโลกต้องทำควบคู่กับทางธรรมจึงเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างเด่นชัด นอกจากมีวัตถุมงคลเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจแล้ว การรักษาศีล 3 คือ กาย วาจา ใจ ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไปด้วย เมื่อวาจาดี สิ่งดีๆ ก็จะเข้ามาหาตัว หากคิดไม่ดี เรียกว่า ติดกรรมทางความคิด มีผลทางกายภาพ สำหรับท่านที่ต้องการทำบุญสร้างกุศลให้เติมเต็มในส่วนที่ขาดหาย ทำบุญให้ถูกต้องสัมฤทธิผล หรือควรทำบุญแบบไหนอย่างไร สามารถติดต่อ สอบถามได้ที่ Facebook สัมฤทธิ์ ร้อยแปด (สำนัก สัมฤทธิ์ร้อยแปด) เพราะมีความมั่นใจในวิชานกฮูก เมื่อได้รับการแนะนำ และทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เชื่อมั่นว่า ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นแบบทันตาเห็น ใครที่แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ เมื่อมาปรึกษาอาจารย์บิ๊ก ย่อมพบกับความสำเร็จสมหวังทุกคน จนได้รับฉายาว่า สัมฤทธิ์ ๑๐๘ ซึ่งเป็นเลขลัคกี้ที่ชอบอยู่แล้ว
เอนก ธรรมใจ
รายงาน