“ท่าเรือประจวบ – ซีฮอร์ส” ลงนาม MOUเดินเรือเฟอร์รี่จุกเสม็ด-บางสะพาน
นายสมศักดิ์ ศิวะไพบูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด หรือ PP ผู้ให้บริการท่าเรือพาณิชย์เอกชน ซึ่งเป็นบริษัท กลุ่มเหล็กสหวิริยา ร่วมกับ นายพงศ์เทพ เหลืองสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการเรือเดินทะเลระหว่างท่าเรือจุกเสม็ดกับท่าเรือบางสะพาน เพื่อร่วมกันส่งเสริมพัฒนาการขนส่งทางน้ำ และสนับสนุนการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบน โดยการทดลองวิ่งเรือ RORO เส้นทางระหว่างท่าเรือสัตหีบ (จุกเสม็ด) อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี – ท่าเรือประจวบ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบด้วยการขนส่งสินค้า ยานพาหนะ และผู้โดยสารในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ดี ในการดำเนินงานบริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ได้ใช้ท่าเทียบเรือ C โดยเรือที่ใช้ในการดำเนินโครงการฯครั้งนี้ ชื่อว่า ดิ บลู ดอลฟิน (The Blue Dophin) เป็นเรือขนส่งและโดยสาร มีความยาว 136.60 เมตร มีระวางขับน้ำ 7.003ตัน สามารถบรรทุกรถได้ครั้งละประมาณ 8 คัน ซึ่งภายในมีบริการที่พัก ร้านอหาร และสิ่งอำนวยความสะดวก โดยจะใช้เวลาเดินเรือถึงจุดหมายในเส้นทางดังกล่าวประมาณ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งช่วยลดต้นทุนการขนส่งของลูกค้า และระยะเวลาเดินทางได้เร็วขึ้น
บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด ได้รับอนุญาตจากกระทรวงคมนาคมให้ประกอบกิจการเป็นท่าเรือพาณิชย์สากล สำหรับให้บริการท่าเทียบเรือสำหรับเรือเดินทางทะเลพาณิชย์ และเรือบรรทุกสินค้าทั่วไป รวมถึงมีบริการรับฝากเก็บสินค้า และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (B0I) ท่าเรือน้ำลึกได้ออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติของท้องทะเล ได้ตรงกับสิ่งแวดล้อม ได้ทำตั้งในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตก ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นร่องน้ำลึกโดยธรมชาติ มีเขื่อนกันคลื่น (Break Water ลักษณะคล้าย บูมเมอแรง วางตัวขนานกับตัวท่าเรือ ซึ่งสร้างขึ้นจากวัสดุคอนกรีตหล่อสำเร็จรูป (Accropode) ทำหน้าที่รับแรงปะทะของคลื่นลม เพื่อให้สามารถจอดและทำงานได้อย่างปลอดภัยบริษัทฯมีมาตรฐานในการให้บริการสามารถรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมในท้องถิ่น และจังหวัดใกล้เคียงได้เป็นอย่างดีและด้วยทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม ท่าเรือประจวบสามารถเป็นศูนย์กลางของการขนส่งสินค้าจากภาคกลาง กรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ตลอดจนส่งเสริมพัฒนาการขนส่งทางน้ำ และสนับสนุนการเชื่อมโยง
ระเบียงเศรษฐกิจภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบน (Eastem Economic Coridor : EEC) และ ( Southerm Economic Coidor: E) ท่าเรือประจวบจึงมีศักยภาพที่จะรองรับการขนส่งสินค้าทั้งการขนส่งภายในประเทศและการขนส่งระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดการค้าเสรีของกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักการพัฒนาที่ยั่งยืนและการสื่อสารกลุ่ม บมจ.สหวิริยาสตีล อินดัสตรี คุณผดุงศักดิ์ และคุณรวิภัท โทรศัพท์ 02-238-3063 ต่อ 1309 และ 1302
พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รายงาน