แฉโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์เขาช่องกระจก แหล่งท่องเที่ยวดังหน้าศาลากลางจังหวัด สร้างทิ้งไร้การเหลียวแล สูญงบกว่า 80 ล้าน
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและท่องเที่ยว กรณีจังหวัดใช้งบประมาณจากงบพัฒนาจังหวัดปรับปรุงภูมิทัศน์รอบเขาช่องกระจก บริเวณสวนสาธารณะหน้าศาลากลางจังหวัด แต่ไม่มีงบประมาณบำรุงรักษาและซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างที่มีสภาพเสื่อมโทรม โดยเฉพาะน้ำตกลิงกระโจน และน้ำพุวาฬบลูด้าขนาดใหญ่ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าอนุสาวรีย์ซีฟู้ด เสาไฟไฮแมส โคมไฟรูปสับปะรด ไม่สามารถใช้การได้นานกว่า 5 ปี
“ จากการตรวจสอบพบว่าการทำโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบเขาช่องกระจกจากงบพัฒนาจังหวัดต่อเนื่องหลายครั้งใช้งบไม่น้อยกว่า 80 ล้านบาท ต่อมาในปี 2559 – 2560 จังหวัดใช้งบอีกกว่า 17 ล้านบาท โดยมอบหมายให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ออกแบบเพื่อทำโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ แต่ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดเปิดใช้อาคารจำหน่ายอาหารลิง ด้านหน้าวัดธรรมิการรมวรวิหาร รวมทั้งบ่อน้ำสำหรับลิงถูกปล่อยทิ้งร้าง และตั้งข้อสังเกตสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดที่ปฏิบัติงานในอาคารศาลากลางจังหวัดเคยมีหนังสือทักท้วงการใช้งบประมาณหรือไม่ ” จ่าเอกเสกสรรค์กล่าว
จ่าเอกเสกสรรค์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดแสดงความรับผิดชอบทำให้สิ่งปลูกสร้างมีสภาพทุรดโทรม เนื่องจากหลังก่อสร้างโครงการเสร็จจังหวัด ไม่ได้มอบหมายให้เทศบาลดูแลรักษา นอกจากนั้นพบว่าบริเวณพื้นที่บนภูเขาและรอบเขาช่องกระจก ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาล ฝ่ายปกครองอำเภอ ป่าไม้ และกรมอุทยานฯ และยังไม่มีหน่วยงานใดรับเป็นผู้ดูแลตามกฎหมาย ต่อมาจังหวัดได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยพื้นที่บริเวณเขาช่องกระจก แต่ยังไม่มีข้อยุติกรณีสำนักงานกฤษฎีกาจะยืนยันให้พื้นที่บนภูเขาเป็นที่ธรณีสงฆ์และมอบหมายให้วัดธรรมิการามฯดูแล ทำให้มีปัญหาจากการใช้งบพัฒนาจังหวัดถูกตรวจสอบย้อนหลัง ล่าสุดได้รวบรวมเอกสารหลักฐานร้องเรียนถึงศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลแล้ว เพื่อให้หน่วยงานในระดับจังหวัดชี้แจงข้อเท็จจริงและเร่งแก้ไขปัญหา
พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์