“ปลัดเกษตรฯ” จี้กรมชลฯเร่งแก้น้ำทะเลเข้าระบบผลิตประปา หวั่น 12 ก.พ.น้ำทะเลหนุนสูงสุด ดึงน้ำแม่กลองไล่ลิ่มความเค็ม ยันน้ำไม่วิกฤติสุดซ้ำรอยปี58
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ค่าความเค็มลุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา กระทบระบบผลิตประปานครหลวง สถานีสูบน้ำสำแล สูงถึง2.53 กรัมต่อลิตร เมื่อวันที่30ม.ค.ที่ผ่านมา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯมีความเป็นห่วงมากได้มอบหมายให้ตนมาติดตามสถานการณ์ความเค็มและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกจากที่เกิดปัญหาเดือนม.ค. และ น้ำทะเลหนุนสูงอีก6รอบช่วงเดือนก.พ.ถึงมิ.ย. ซึ่งผู้บริหารต้องใส่ใจแก้ไขปัญหาเพราะเป็นช่วงเวลาต้องเกิด รวมทั้งการใช้น้ำมากดึงน้ำไปทำนาปี ดังนั้นกรมชลฯทำหน่วยงานเดียวไม่ได้ ต้องมีหนังสือออกไปถึงผู้ว่าราชการ 22จังหวัดและหน่วยงานท้องถิ่น ในการดูแลกำชับเรื่องการสูบน้ำขององค์กรท้องถิ่น จะกระทบปริมาณน้ำมาผลักดันน้ำเค็ม ช่วงจากวันที่4ก.พ.-12ก.พ.นี้ก่อนวันวาเลนไทส์ จะมีน้ำทะเลหนุนสูงต้องป้องกันล่วงหน้าไม่ให้น้ำเค็มลุกล้ำระบบประปา โดยให้ผันน้ำจากแม่กลองมาช่วยผลักดันน้ำเค็มซึ่งกว่าปริมาณน้ำเดินทางมาถึงใช้เวลา3วัน
“เกิดคำถามว่าก่อนหน้านี้ไม่ผันน้ำแม่กลอง ที่เตรียมไว้ช่วงฤดูแล้ง500ล้านลบ.ม.ติดใจตรงนี้ ถ้าไม่เอามาจะใช้ผิดจังหวะเวลา เพื่อให้ปริมาณน้ำที่อ.บางไทร มีปริมาณ100ลบ.ม.ต่อวินาทีขึ้นไป จากปัจจุบันอยู่ที่70 ลบ.ม.ต่อวินาที ไม่พอจากสถานการณ์น้ำทะเลหนุนและปรากฏการณ์น้ำทะเลยกตัวสูง จึงให้ผันน้ำจากเขื่อนป่าสักเพิ่ม30ลบ.ม.ต่อวินาทีเป็น40-50ลบ.ม.ต่อวินาที และระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มากกว่า13 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง(ม.รทก.)รวมกับการปฏิบัติการวอเตอร์แฮมเมอร์ เพื่อดันลิ่มความเค็มสะสมอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาและ สถานีสูบน้ำสำแลให้หลุดออกอ่าวไทย ต้องทำตรงนี้ให้เกิดผลสำฤทธิ์ และมีความเข้มข้นขึ้น รวมกับการบริหารจัดการเปิดปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ซึ่งจุดนี้ขอให้การประปานครหลวง ร่วมมือกับกรมชลฯให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น “ นายทองเปลว กล่าว
ปลัดกระทรวงเกษตรฯกล่าวว่าทั้งนี้น่าเป็นห่วงปริมาณน้ำใช้การได้ใน4เขื่อนหลักเจ้าพระยา เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย เขื่อนป่าสักฯณ วันที่ 1พ.ค.เหลือ1.9พันล้านลบ.ม.จะอยู่รอดถึงฤดูฝนหรือไม่ ซึ่งจะต้องนำเอาปริมาณน้ำ500ล้านลบ.ม.จากลุ่มแม่กลอง มาใช้ตอนนี้ ตนสงสัยว่าทำไมไม่ดึงน้ำแม่กลอง มาผลักดันน้ำเค็ม เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรี รองนายกฯและรมว.เกษตรฯมีความเป็นห่วงมาก โดยวันนี้จะต้องเตรียมรับมือน้ำทะเลหนุนสูงถึงช่วงกลางเดือนก.พ.ไม่อย่างนั้นจะหมดน้ำใช้การ ขอให้ ผอ.สำนักชลประทานที่ 11 และ13 ให้ดึงน้ำมาจากแม่กลอง มาเตรียมไว้ ช่วงเวลานี้ไปจัดการเครื่องสูบน้ำคลองพระยาบรรลือ ไปเปิดไว้เลยต้องใช้ทำวิธีการวอเตอร์แฮมเมอร์ กระแทกน้ำเค็ม ขอความร่วมมือไป ยังจังหวัดตลอดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ถึงสถานีสูบน้ำสำแล ขอให้ชะลอสูบน้ำช่วงน้ำทะเลหนุนสูง และลดระบายน้ำเสียลงแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งลุ่มน้ำท่าจีนด้วย แม้กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าเดือนเม.ย.ฝนจะมา แต่ให้ใช้ของจริงมาจัดการความเสี่ยงจะดีกว่าการคาดการณ์
“ยืนยันน้ำประปา รสชาดไม่เค็มไม่กร่อย แต่เหตุการณ์เมื่อวันที่30ม.ค.ค่าความเค็มไปอยู่ระดับ2.53กรัมต่อลิตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบ10ปี ต้องเร่งวางแผนระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสัก ตั้งแต่วันที่4ก.พ. อีกทางผันน้ำจากแม่กลอง ป้องกันช่วงสูงสุดที่คาดว่าจะเกิด6ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำวิกฤติที่สุดในปี58 มีน้ำใช้การได้ใน4เขื่อนหลัก 1,800ล้านลบ.ม.ปีนี้2.4พันล้านลบ.ม.รวมผันน้ำจากลุ่มแม่กลอง จะทำให่ผ่านพ้นไปได้” นายทองเปลว กล่าว