“บิ๊กเกรียง” มทภ.4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการ ป้องกันสกัดลักลอบกลุ่มแรงต่างด้าวช่องธรรมชาติ เน้นทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ วางกำลัง 24 ชม.

รายงานข่าวความคืบหน้า พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางมายังฐานปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ซึ่งตั้งอยู่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้า ในการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองของกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่หลบหนีจากพื้นที่ ประเทศมาเลเซีย ตามช่องทางธรรมชาติ โดยมี พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาสและเจ้าหน้าที่ในพื้นที3 อำเภอในจังหวัดนราธิวาส ร่วม30นาย เข้าร่วมประชุมในการชี้แจงการบูรณาการกำลังร่วม ในการสกัดกั้นทางน้ำ ช่องทางธรรมชาติ รวมไปถึงเขตชุมชนเมือง ที่มีภาคประชาชนในการสนับสนุนภาคปฏิบัติในการเฝ้าคอยสังเกตกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ที่สุ่มเสี่ยงต่อการนำเชื้อไวรัสโควิด 19 มาแพร่ระบาดในพื้นที่ ซึ่งล่าสุดจากการบูรณาร่วมการปฏิบัติด้านข่าวสารแนวทางการปฏิบัติตามแนวชายแค เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค Covd – 19ได้เพิ่มมาตรการสกัดกั้นตามแนวชายแด ป้องกันผู้หลบหนีข้าเมือง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 เพื่อได้ดำเนินการในปัจจุบัน การบูรการกำลังและเครื่องมือสกัดกั้นตามแนวชายแดนให้ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ คือ ทางอากาศ ใช้อากาศยาน โดรอนบิน ตรวจการณ์ และกดดันทางอากาศ ทางน้ำ โดยการเฝ้าตรวจ และ ลาดตระเวน ทั้ง ทางเรือตามสำน้ำทางบก มีการจัดกำลังและเฝ้าตรวจการณ์ตลอด 24 ชมและแบ่งเป็นเขตแนวชายแดนทางบก กำลังกองร้อยทหารพรานเชิงรุก และยุทโธปกรณ์พิเศษ ร่วมกัน 3 ฝ่าย คันหาในชุมชน หมู่บ้าน อย่างต่อเนื่อง

ด้าน พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่าในช่วงเดือน ธ.ค. – ม.ค. ต้น ๆ มีการตื่นตัวรายงานต่างด้าวในฝั่งประเทศมาเลเซีย ที่พยายามจะโยกย้ายกลับมายังประเทศไทย โดยผ่านเข้ามาข้ามช่องทางธรรมชาติ มีการขยายผลและการจับกุมกระบวนการนำพาคนต่างด้าวเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าได้จับกุม ทั้งเวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมา จากการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนำพา ขยายผลอีก 13 เป้าหมาย ทำให้การเชื่อมต่อในระหว่างนายหน้าการนำพาขบวนการรายงานต่างด้าวไม่สามารถที่จะติดต่อกันโดยสะดวกมากนัก ในช่วงหลังจะเห็นว่ามีปริมาณรายงานต่างด้าวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ในพื้นที่แนวชายแดน จากมาตรการการสกัดกั้นในการลักลอบเข้ามาถ้าเราพบปัญหาใดที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด ก็สามารถที่จะนั่งหารือ การปฏิบัติตรงประเด็นที่หน่วยงานนั้น เป็นไปอย่างทันเวลา จาการสร้างเครือค่ายสร้างประชาชนเพื่อเฝ้าติดตามเพื่อดูแลการเล็ดลอดเข้าไปในชั้นใน ซึ่งเราได้รับความร่วมมือจากกำนันผู้ใหญ่บ้านพี่น้องประชาชนที่เขาตระหนักถึงภัยที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้านเจ้าหน้าที่นำพาสู่จับกุมถึงการขยายผลไปสู่ผู้นำพา และดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกส่วนอย่าประมาทให้จับตาเฝ้าดูอย่าให้มีการหลุดรอดเข้ามาได้ และคอยทำความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ตระหนักถึงความสำคัญ อย่างหลงทำผิดสิ่งผิดกฏหมายอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้สถานการณ์ลุกลามต่อประเทศไทยของเรา

ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  นราธิวาส