ผู้บัญชาการทหารสูงสุดลงพื้นที่โก-ลก เข้มมาตรการโควิด กล่าวชื่นชม จนท.คุมสถานการณ์ได้

ก่อนเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยระลอก 4

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 7 มกราคม 2564 ที่ห้องประชุมด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางพร้อมคณะ โดยมี พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก พ.ท.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะนราธิวาส 30 นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและเข้าประชุมร่วม

โดยพลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขึ้นไปยังห้องประชุมชั้น 3 ของด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนรวมทั้งผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง ซึ่งวาระการประชุมเร่งด่วนในภารกิจของผู้บัญชาการทหารสูงสุดในครั้งนี้ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ล่าสุดจากการแถลงข่าวของผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส พบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่เป็นรายที่ 2 เป็นเพศชาย อายุ 48 ปี ไม่มีไข้ มีอาการไอ จากการสอบสวนพบไทม์ไลน์ว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม 2563 ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ณ โรงเรียนสอนศาสนา เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน และวันที่ 27 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 20.00 น. ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ ที่อำเภอตากใบ มีน้องชายและน้องสะใภ้เดินทางไปรับ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปพักยังจุดพักคอยที่สนามกีฬามหาราช อำเภอสุไหงโก-ลก ต่อมาวันที่ 28 ธันวาคม 2563 เดินทางจากสนามกีฬามหาราช ไปยังจุดตรวจคัดกรอง ณ ด่านสุไหงโก-ลก โดยสารรถกระบะตอนเดียว มีผู้โดยสารร่วมด้วยจำนวน 5 คน หลังจากนั้นได้ส่งตัวไปยัง Local Quarantine ตลาดกลางการเกษตรเพื่อการส่งออก อำเภอยี่งอ ก่อนจะตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19

นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังได้รับฟังแนวทางการปฏิบัติในการสกัดกั้นการลักลอบหนีข้ามแดนมาทางช่องทางธรรมชาติทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าวที่อาจจะทะลักหนีตายจากประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศมาเลเซีย ยอดพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 120,818 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 1,741 ราย
ต่อจากนั้นพลเอกเฉลิมพล ผบ.ทสส.ได้มอบแนวทางในการปฏิบัติเพื่อเป็นการสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากกลุ่มที่ลักลอบหากไม่ถูกควบคุมตัว จะเป็นความเสี่ยงต่อการนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พลเอกเฉลิมพล ผบ.ทสส.ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในภารกิจภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงได้มอบหมายให้ผมเดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขที่ จ.นราธิวาส โดยเฉพาะที่ด่านศุลกากร เพื่อรับฟังบรรยายสรุปของหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสในภารกิจการดูแลพื้นที่ชายแดนของ จ.นราธิวาสที่ติดกับประเทศมาเลเซีย โดยได้รับฟังข้อมูลจากสาธารณสุข ในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ รวมทั้งการดำเนินการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด ซึ่งนราธิวาสพบผู้ติดเชื้อเพียง 2 รายคือมารดาของบิ๊กไบค์ และล่าสุดคือครูสอนศาสนาที่ข้ามแดนจากช่องทางธรรมชาติ สำหรับสถานการณ์ของโควิด-19 ที่ จ.นราธิวาส ยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ผมขอชื่นชมเจ้าหน้าที่รวมทั้งให้กำลังใจในการปฏิบัติงานทุกนายทุกฝ่าย โดยเฉพาะหน้างานได้มีกำลังใจที่ดี ที่สำคัญต้องมีการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่ามีมาตรฐานที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และก่อนที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดจะเดินทางกลับได้เดินทางต่อไปยังโรงเรียนเทศบาล 4 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เพื่อเยี่ยมเยียนและมอบถุงยังชีพแก่ราษฎรจำนวนประมาณ 200 คนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยระลอก 4 ที่ผ่านมา เนื่องจากมรสุมพัดผ่าน ทำให้เกิดสภาวะฝนตกหนักติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 โดยพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นจุดน้ำท่วมบริเวณที่ราบลุ่มริมตลิ่งของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่มีปริมาณน้ำล้นตลิ่งเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับ 2 เมตร ทำให้บ้านเรือนของประชาชน จำนวน 8 ชุมชน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ ชุมชนหัวสะพาน ท่ากอไผ่ ท่าโรงเลื่อย ท่าประปา ท่าเจ๊ะกาเซ็ง ท่าโปฮงยามู ท่าบือเร็งในและท่าบือเร็งนอก ซึ่งมีระดับน้ำท่วมขังสูงขึ้นในภาพรวมโดยเฉลี่ยจากวานนี้อยู่ในระดับ 70 ถึง 150 ซ.ม.

ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ นราธิวาส