รมช.มนัญญา ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ อาหารปลอดภัย เชิญชวนท่องเที่ยวเชิงเกษตร

รมช.มนัญญา ลงพื้นที่ติดตาม

การดำเนินงานสหกรณ์การเกษตร

โครงการหลวงดอยอินทนนท์ ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ อาหารปลอดภัย

เชิญชวนท่องเที่ยวเชิงเกษตร

 

 

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ จำกัด ณ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ว่าเป็นสหกรณ์ที่อยู่ในพื้นที่โครงการหลวง ก่อตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งพัฒนาและส่งเสริมเกษตรกรโดยเฉพาะชาวไทยภูเขาให้มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี สามารถพึ่งพาตนเองได้ ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ต่อมาได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มกันเพื่อดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม และยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้มีความกินดีอยู่ดี

ทั้งภายในชุมชนและนอกชุมชน จึงได้มีการจัดตั้งและจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2536 สมาชิกประกอบด้วยชนเผ่าม้งและกระเหรี่ยง ทั้งนี้ กิจกรรมที่สหกรณ์ฯ ดำเนินร่วมกัน เช่น รวบรวมผลผลิตทางการเกษตร การซื้อขายผลผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาดท้องถิ่น ตลาดเกษตรกร และมีช่องทางการจำหน่ายอื่นด้วย อาทิ โครงการหลวง อีกทั้งยังจัดตั้งตลาดสินค้าชุมชน เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มสตรีและกลุ่มเยาวชนของบ้านขุนกลางให้มีอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้น โดยนำสินค้าที่ระลึกและผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาลมาจำหน่าย เช่น กะหล่ำปลี สลัด มะเขือเทศ ผักกาดขาวปลี หัวไชเท้า ซูกินี หอมญี่ปุ่น เซเลอรี่ เบบี้ฮ่องเต้ เป็นต้น ทั้งนี้ ผลผลิตทางการเกษตรของสหกรณ์ฯ เป็นสินค้าที่ผ่านมาตรฐานและรับรองให้เป็นสินค้าเกษตรปลอดภัย จึงทำให้ได้รับการเชื่อมั่นจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการทำอาชีพการเกษตร พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยมีการดำเนินนโยบายส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ส่งเสริมให้เกษตรกรลดละเลิกการใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืชศัตรูพืช ส่งเสริมให้มีการผลิตสินค้าเกษตรในรูปแบบการทำเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP) เพื่อให้สินค้าเกษตรมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีการยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ให้เป็นองค์กรในระดับชุมชนในการรวบรวมจัดเก็บแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรในระดับพื้นที่

รวมทั้งจัดหาตลาดโดยการจัดทำโครงการซุปเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ เพื่อให้เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าของสมาชิกที่มีคุณภาพ และเชื่อมโยงเครือข่ายการตลาดระหว่างขบวนการสหกรณ์กับภาคเอกชน เพื่อกระจายผลผลิตที่มีคุณภาพและปลอดภัยไปสู่ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังได้ริเริ่มโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เพื่อให้ลูกหลานเกษตรกรได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ใช้ความรู้และประสบการณ์จากภาคอุตสาหกรรมและบริการ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาการเกษตรของครอบครัว เป็นการสร้างงานการเกษตรให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เยี่ยมชมตลาดเกษตรกร ตลาดแม่บ้านและเยาวชนบ้านขุนกลาง ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ส่งเสริมกลุ่มสตรีซึ่งเป็นแม่บ้านและเยาวชน ของบ้านขุนกลางให้มีอาชีพและเพิ่มรายได้โดยการตั้งตลาดขายสินค้าชุมชน เพื่อจำหน่ายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์การเกษตรตามฤดูกาล ปัจจุบันมีสมาชิก 80 คน มีทุนหมุนเวียนมากกว่า 5 แสนบาท สมาชิกกลุ่มสตรีมีรายได้เฉลี่ย 30,000 – 100,000 บาท/ปี