ลูกค้า ธกส. เฮ… ชำระหนี้ ได้ดอกเบี้ยคืน 10% ใน “โครงการชำระดีมีคืน”

ลูกค้า ธกส. เฮ… ชำระหนี้ ได้ดอกเบี้ยคืน 10% ใน “โครงการชำระดีมีคืน”

 

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563 ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาเกาะยายฉิม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายคณิตพงศ์ สังข์สกฤษ ผช.ผจก.ธนาคารเพื่อการเกษตรกรและสหกรณ์ (ธกส.) สาขาเกาะยายฉิม ได้ประชาสัมพันธ์ “โครงการชำระดีมีคืน” ให้กับลูกค้าที่เดินทางมาทำธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคาร ซึ่งประชาชนที่เดินทางมาทำธุรกรรมทราบหลักเกณฑ์ ต่างพากันดีใจที่จะได้รับคืนดอกเบี้ย 10% ผ่านทาง บช.

นายคณิตพงศ์ สังข์สกฤษ ผู้ช่วยผู้จัดการสาขาเกาะยายฉิม กล่าวว่า จากสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติและการระบาดของโรค covid 19 ซึ่งมีผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเกษตรกรที่เป็นลูกค้ากับทาง ธกส. ดังนั้นทางรัฐบาลและธกส. จึงได้มีโครงการต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจากสถานการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่มีการแพร่ระบาดจากโรคโควิดทำให้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า ธกส. ซึ่งที่ผ่านมาทางธนาคารจึงได้มีโครงการพักชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรลูกค้าของ ธกส.ทุกรายตลอดจนสถาบันเกษตรกรต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าความสามารถในการชำระหนี้ดอกเบี้ยของลูกค้า ธกส. ก็ยังมีปัญหาอยู่ ทางธนาคารจึงมีโครงการฯที่จะมาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ในช่วงสั้นๆ ชื่อ “โครงการชำระดีมีคืน” ซึ่งลูกค้าที่มาชำระหนี้ ธกส. ทั้งหมดที่เป็นดอกเบี้ย แบ่งเป็น ลูกค้าที่เป็นเกษตรกรและบุคคลทั่วไปธนาคารจะลดดอกเบี้ยให้ 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริงรายละไม่เกิน 5,000 บาท และลูกค้าที่กลุ่มบุคคล,กลุ่มเกษตรกรหรือกองทุนต่างก็จะได้รับคืน 10%ของดอกบี้ยที่ชำระจริงแต่ไม่เกินรายละ 50,000 บาท โดยทางธนาคารจะนำเอาเงินที่ได้รับ คืนกลับเข้าไปในบัญชีเงินฝากของลูกค้า ธกส. ซึ่งโครงการจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ถึง 31 มีนาคม 2564 โดยหากลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยคืนครบตามที่ทางธนาคารกำหนดแล้วก็ถือว่าจบโครงการสำหรับรายนั้นๆภายในระยะเวลาโครงการ

ซึ่งคิดว่าโครงการนี้คงจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแบ่งเบาภาระหนี้สินในเรื่องของดอกเบี้ยให้กับลูกค้าธนาคารได้ในระดับหนึ่ง ในส่วนของ ธกส.สาขาเกาะยายฉิมได้ทำการเร่งประชาสัมพันธ์ให้กับลูกค้า ธกส.ที่มาใช้บริการและจะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านการประชุมหมู่บ้านทุกหมู่ผ่านทางผู้นำชุมชน เพื่อให้กระจายข่าวเรื่องนี้ให้ทั่วถึงกับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของธนาคาร นายคณิตพงศ์ กล่าว

 

นางกนกอร อินทร์เอี่ยม ผู้มาใช้บริการที่ธนาคาร เผยว่า ตนเป็นเกษตรกรที่เพราะปลูกสัปปะรดที่ผ่านมาได้รับผลกระทบในเรื่องของปัญหาราคาเนื่องจากทางโรงงานได้ตัดลดปริมาณการใช้ลง ส่งผลให้ราคาต่ำ ส่งผลให้เกษตรกรต้องประสบภาวะขาดทุน จากเมื่อปัที่ผ่านมาขายได้ในราคา กิโลกรัมละ 14-15 บาท มาตอนนี้เหลือกิโลละ 5-6 บาท ส่งผลให้เดือดร้อนและประสบปัญหาในการหาเงินมาชำระหนี้ ที่ได้กู้ไว้กับทางธนาคารเพื่อนำไปลงทุนเพาะปลูก ซึ่งวันนี้ก็ครบกำหนดชำระคืน เลยได้เดินทางมาทำธุรกรรมที่ธนาคารและเมื่อรู้ว่ามีโครงการฯก็รู้สึกดีใจและขอบคุณทางธนาคารที่พยายามหาโครงการฯ เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้เกษตรกรที่เพาะปลูกสัปปะรดทุกรายลำบากเดือดร้อนกันเป็นอย่างมาก

 

พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  รายงาน