ผบ.ฉก.นราธิวาสขึ้นเรือตรวจเข้มแนวตะเข็บชายแดนตากใบ
สั่งสกัดผู้ลักลอบข้ามแดนจากมาเลย์ หวั่นโควิด-19 ระบาดระลอกสอง
วันที่ 15 พ.ย. 63 พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 เดินทางพร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พ.ท.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 มี พ.ต.ท.เฮรามาน เจ๊ะดี รองผู้กำกับ.ปราบปราม.สภ.ตากใบ ด้วยซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ อ.ตากใบและ อ.สุไหงโก-ลก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำซึ่งเป็นชุดลาดตระเวนทางน้ำ ขึ้นเรือเร็วหรือสปีดโบ๊ทบริเวณสถานีตำรวจน้ำตากใบ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยปฏิบัติการณ์ครั้งนี้เพื่อเป็นการตรวจสอบตามริมแม่น้ำโก-ลกที่กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยด้าน จ.นราธิวาสกับรัฐกลันตันของประเทศมาเลเซีย รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของชุดลาดตะเวนทางน้ำโดยตลอดแนวตะเข็บชายแดนระยะทางตั้งแต่ อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลกและ อ.แว้ง รวมระยะทาง 95 กิโลเมตร ที่เป็นช่องทางธรรมชาติที่ถือว่าเป็นจุดสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะมีผู้ลักลอบข้ามฝั่งเข้ามายังประเทศไทยโดยอาศัยช่องทางธรรมชาติเหล่านี้ ที่สำคัญสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะสกัดกั้นและตรวจสอบต่อการเล็ดลอดของผู้ที่ติดเชื้อโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่อาจจะนำมาแพร่ระบาดในฝั่งประเทศไทยเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ประเทศมาเลเซียกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้ยังคงต้องมีมาตรการปิดประเทศหรือล็อคดาวน์เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยสถิติยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นจำนวนกว่า 20,000 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจำนวนเกือบ 200 คน
ทางด้าน พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.พล.ร.15/ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้เน้นย้ำกับกำลังพลซึ่งเป็นชุดป้องกันชายแดน หรือ ปชด.ที่ประกอบด้วย 3 กองร้อย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุนภารกิจ ทั้งหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ที่จัดกำลังเข้าเสริมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนในแต่ละผลัดในการเฝ้าระวังการลักลอบข้ามแดนอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งแนวตะเข็บ อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลกและ อ.แว้ง ให้เฝ้าสอดส่องดูแลพร้อมจัดกำลังคุมเข้มพื้นที่แนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าพื้นที่โดยผิดกฎหมาย อีกทั้งได้กำชับหากพบเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำบุคคลต่างด้าวเข้าในพื้นที่ให้รายงานให้ทราบเพื่อดำเนินการขั้นเด็ดขาด
“ในวันอังคารที่จะถึงนี้จะมีการประชุมกองกำลัง 3 ฝ่ายรวมทั้งภาคประชาชนในพื้นที่ 3 อำเภอคือตากใบ สุไหงโก-ลกและแว้ง ว่าจะต้องมีมาตรการอย่างเข้มข้นอย่างไรเพิ่มเติมกันบ้าง เนื่องจากรัฐกลันตันของมาเลเซียยังคงมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถึงแม้จะแพร่น้อยกว่ารัฐเคดาห์และรัฐเปรัค แต่ถ้าคนทางฝั่งนั้นมีการแอบลักลอบเข้ามา นำเชื้อโควิดเข้ามาในไทยเรา จะระบาดรอบสองได้ ที่สำคัญในห้วงนี้มาเลย์มีนโยบายผลักดันแรงงานต่างด้าว ทั้งเวียดนาม กัมพูชาและเมียนมาร์กลับออกนอกประเทศของเขา และอาจจะทะลักข้ามมาฝั่งไทยได้ ที่ผ่านมามีการจับกุมได้หลายครั้ง ทั้งจับกุมผู้นำพาด้วย ทำกันเป็นขบวนการ อย่างไรก็ตามทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาตรงจุดนี้จึงได้สนับสนุนเรือสปีดโบ๊ทจำนวน 2 ลำเพื่อปฏิบัติภารกิจในการลาดตะเวนทางน้ำของชุดป้องกันชายแดนเพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาของคนไทยและแรงงานต่างด้าวจากประเทศมาเลเซีย” พล.ต.ไพศาลกล่าว
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ