อดีตพนักงานบริษัทซับฯเคอรี่ โกงเงินชาวบ้าน รวมตัวแจ้งความกว่าร้อยคน เสียหายมูลค่าหลายล้านบาท
อีกทั้งออกรถป้ายแดงมา เพื่อรอวิ่งรถกับบริษัท
สาวใหญ่อดีตพนักงานของบริษัทซับคอนแทรคแห่งหนึ่ง ที่ร่วมวิ่งรถรับส่งพัสดุให้กับบริษัทเคอรี่ เอ็กเพรส โกงเงินชาวบ้านในหลายอำเภอของจังหวัดสระแก้ว มูลค่าความเสียหายรวมกว่าล้านบาท โดยอดีตพนักงานสาวคนนี้ หลอกชาวบ้านว่า จะได้รับเงินเดือนเดือนละ 2 ถึง 5 หมื่นบาทในการวิ่งรถส่งพัสดุไปตามคลังต่างของบริษัทเคอรี่ในเขตภาคตะวันออก แต่ผ่านมากว่า 4 เดือน กลุ่มชาวบ้านที่เข้าร่วมงาน และเช่าซื้อรถ มารองาน ก็ยังไม่ได้งานทำ ก่อนจะรวมตัวกันเข้าแจ้งความในข้อหาฉ้อโกง
เช้าวันนี้เวลา 09.00 น.ที่สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ได้มีกลุ่มชาวบ้านในเขตอำเภอวังน้ำเย็น / วังสมบูรณ์ / อรัญประเทศ และอำเภอโคกสูง ในจังหวัดสระแก้วหลายสิบคน นำโดยนายธนพนธ์ พามา หรือ เพชร หัวหน้าสายงานวิ่งรถรับส่งพัสดุ ของบริษัทซับคอนแทรคแห่งหนึ่งที่ร่วมวิ่งรถกับบริษัทเคอรี่ เอ็กเพรส ประเทศไทย จำกัด รวมตัวกันเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเย็น ให้ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงกับนางสาวพิมพ์ลภัส มันตาวิจักษณ์ หรือ นางสาวพลอย ที่อ้างกับชาวบ้านกลุ่มนี้ว่า จะได้งานวิ่งรถรับส่งพัสดุให้กับบริษัทเคอรี่ฯ มีรายได้เดือนละตั้งแต่ 2 ถึง 5 หมื่นบาท แล้วแต่เส้นทางที่จะต้องวิ่งรถใกล้หรือไกล
จากการสอบถามนายธนพนธ์ (เพชร)พามา อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 113 ม.6 ต.เบญจขร อ.คลองหาด จ.สระแก้ว หัวหน้าสายงาน ผู้ที่ได้นำญาติพี่น้องมาแจ้งความ กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ได้รู้จักกับนางสาวพลอยโดยผ่านมาจากลุงแท้ๆของตน โดยนางสาวพลอยได้ชักชวนตน ให้ร่วมวิ่งรถรับส่งพัสดุ กับทางบริษัทแสงอัมพร ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทซับคอนแทรค ที่ร่วมวิ่งรถให้กับบริษัทเคอรี่ โดยนางสาวพลอย ได้ให้ตน เป็นหัวหน้าสายงานและหาลูกสายมาร่วมวิ่งรถ โดยจะต้องเสียเงินเริ่มแรก คือค่าประกันงานแรกเข้า 5 พันบาท ค่าเอกสาร 1 พันบาท แต่หากใครต้องการตู้เหล็กติดตั้งภายในรถกระบะเพิ่มเติม จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 1 หมื่น 6 พันบาท เฉพาะสายงานของตนนั้น มีรถกระบะประมาณ 50 คัน รวมเงินแล้วไม่ต่ำกว่า 6 แสนบาท และนอกจากนั้น ญาติพี่น้องและเพื่อนๆของตน โดยมี2-3 คนได้ไปออกรถป้ายแดงมา เพื่อรอเรียก ออกมาวิ่ง และอีกหลายคนได้ยอมลาออกจากงานประจำที่ทำกันมาหลายปี เพื่อจะมาวิ่งรถรับส่งพัสดุในสายงานนี้
เช่นเดียวกับ นางสาวอาทิติยา โพธิ์สาวงศ์ ยอมรับว่า จากการพูดคุยกัน รวมถึงได้ตรวจสอบประวัติของนางสาวพลอย จะมีรูปภาพแสดงให้กลุ่มสายงาน ดูแล้วสร้างความน่าเชื่อถือ ทำทีว่านางสาวพลอยเป็นพนักงานของบริษัทซับฯ ที่ร่วมวิ่งรถกับบริษัทเคอรี่ จึงดูน่าเชื่อถือมาก และเมื่อกลุ่มชาวบ้านตรวจสอบประวัตินางสาวพลอยไปยังต้นสังกัด จากบริษัทซับฯแสงอัมพร ทรานสปอร์ต จำกัด พบว่า นางสายพลอยเป็นอดีตพนักงานของบริษัทจริง แต่เนื่องจากมีพฤติกรรมทุจริตเงินของบริษัทฯ จึงต้องให้ออกจากงานของบริษัทไปเมื่อไม่นานนี้เอง
ด้าน พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเย็น ยอมรับว่า ในคดีนี้เข้าข่ายในข้อหาฉ้อโกง และมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก จึงได้มีคำสั่งให้รองผู้กำกับสอบสวน แต่งตั้งพนักงานสอบสวนชุดเฉพาะกิจขึ้นมา หลังจากวันนี้ ได้รับแจ้งความจากกลุ่มชาวบ้านแล้ว จะเรียกชาวบ้านกลับมาสอบสวนอีกครั้ง พร้อมทั้งเร่งดำเนินคดีนี้อย่างรวดเร็วที่สุด เพราะถือว่า เป็นคดีที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก
กลุ่มชาวบ้านยังให้ข้อมูลอีกว่า นอกจากสายงานของนายธนพนธ์ (เพชร)ที่มีรถประมาณ 50 คันแล้ว ยังมีกลุ่มชาวบ้านอีกสายงานหนึ่ง ได้รวมตัวกันแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวพลอยที่สถานีตำรวจภูธรคลองหาดอีกเช่นกัน โดยสายงานนั้นมีรถมากถึง 110 คัน ขณะเดียวกัน ชาวบ้านยังบอกอีกว่า ล่าสุด นางสาวพลอย ได้แอบอ้าง นำฉายาพระเกจิชื่อดัง พระอธิการวัฒนเกียรติกุลชาโต ซึ่งเป็นเกจิชื่อดังในพื้นที่ตำบลเบญจขร อำเภอคลองหาด ไปแอบอ้างหาผลประโยชน์จากสายงานทางอำเภออรัญประเทศอยู่ในขณะนี้ คาดว่า สายงานทางอำเภออรัญประเทศยังไม่รู้ตัวว่าถูกหลอกลวงเช่นกัน ทำให้มูลค่าความเสียหายในขณะนี้ น่าจะไม่ต่ำกว่า 4 ถึง 5 ล้านบาท
รายงานข่าวจากไตรรัตน์ มี วงษ์ จ.สระแก้ว