ผบ.ร.3พัน.3 และ ประธานสมาคมแม่บ้าน ทบ. สาขา ร.3 พัน.3 ค่ายพระยอดเมืองขวาง พร้อมพุทธศาสนิกชน
สร้างสะพานบุญครั้งยิ่งใหญ่ร่วมทอดถวายกฐินสามัคคี วัดพุทธาวาสภูสิงห์ จ.กาฬสินธุ์
วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563 เวลา 08.00 น. ที่วัดพุทธาวาสภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พันโท อุทัย นิลเนตร ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (ผบ.ร.3 พัน.3) พร้อมด้วย คุณสิริกัญญา นิลเนตร ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 ค่ายพระยอดเมืองขวาง (ประธานสมาคมแม่บ้าน ทบ. สาขา ร.3 พัน.3) พร้อมข้าราชการและครอบครัว ร.3 พัน.3 ชุมชนค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมทั้งพุทธศาสนิกชนผู้มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาทั้งในและนอกพื้นที่อำเภอสหัสขันธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมกันเชื่อมกุศลบุญเพื่อสร้างสะพานบุญครั้งยิ่งใหญ่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพร่วมทอดถวายกฐินสามัคคี วัดพุทธาวาสภูสิงห์ อ.สหัสขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 1, 701,596 บาท เพื่อสมทบทุนโครงการก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรม
วัดพุทธาวาส ภูสิงห์ ตั้งอยู่บนยอดเขาภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธ์ ใกล้ตลาดสหัสขันธ์ ห่างจากตัวจังหวัดกาฬสินธุ์ 34 กม. เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับนั่ง ปางมารวิชัยขนาดใหญ่นามว่าพระพรหมภูมิปาโล อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองสหัสขันธ์ พระพรมภูมิปาโลสร้างเมื่อวันที่ 14 เดือน เมษายน พุทธศักราช 2511 นายช่างที่ก่อสร้างพระพุทธรูปองค์นี้เป็นช่างจากบ้านสีถาน อำเภอกมลาไสย ซึ่งเป็นกลุ่มช่างที่สืบทอดวิชาช่างมาจากกลุ่มสกุลช่างล้านช้างนานนับหลายร้อยปี สืบเนื่องจากปลายปี พ.ศ. 2509 คณะกรรมการส่งเสริมพระพุทธศาสนาวัฒนธรรมและประเพณีจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายบุรี พรหมลักขโณ เป็น ประธาน ได้มีมติให้ก่อสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่บนยอดเขาภูสิงห์ด้านทิศใต้ เพื่อให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยึดเหนี่ยวจิตใจแก่ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์และเป็น มิ่งมงคลแก่บ้านเมือง การก่อสร้างพระพุทธรูปบนไหล่เขาภูสิงห์เป็นผลงานอันยิ่งใหญ่ เพราะได้รับความร่วมมือศรัทธาจากคณะสงฆ์ ประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างดี โดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2511 ตามคำแนะนำของท่านโหราพราหมณาจารย์ และได้รับความเมตตาจากพระคุณเจ้า เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส (วัดสามปลื้ม) ได้ผูกดวงชะตาขององค์พระพุทธปฏิมาที่ก่อสร้างซึ่งตรงกับภูมิปาโลฤกษ์ และต่อมาได้ใช้เป็นคำต่อท้ายนามองค์พระพุทธปฏิมากรและเมื่อสมาสเข้ากับคำว่า “พรหม” อันมีความหมายถึงพรหมวิหารธรรม เป็น “พระพรหมภูมิปาโล” รวมความหมายว่า “พระผู้ยิ่งใหญ่และเปี่ยมด้วยพรหมวิหารธรรม ที่คอยให้ความพิทักษ์คุ้มครองสถานทั่วปริมณฑล” นั่นเอง ในงาน สมโภชและพุทธาภิเษกองค์พระพุทธปฏิมากร ฯพณฯ พลเอกประภาส จารุเสถียร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้น เป็นประธานพิธีเปิดงานและประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ยังเบื้องพระนลาฏองค์พระพุทธปฏิมากร เพื่อเพิ่มพูนความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระพุทธปฏิมากร
ปัจจุบัน นี้ พระพรหมภูมิปาโล อยู่ในความดูแลของคณะสงฆ์และส่วนราชการอำเภอสหัสขันธ์ คณะสงฆ์กำหนดให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่พำนักสงฆ์นามว่า “ ที่พำนักสงฆ์พุทธาวาส” โดยมี พระมหานำพล ทิตฺตวฑฺฒโน เจ้าคณะตำบลภูสิงห์เป็นประธานสงฆ์ เป็นศูนย์เผยแผ่ธรรม และเป็นสถานที่พักผ่อนจิตใจชมธรรมชาติ เพราะเมื่อได้ขึ้นมาบนที่พำนักสงฆ์พุทธาวาส จะสามารถมองเป็นทิวทัศน์ได้รอบด้าน คือด้านทิศใต้จะมองเห็นภูมิภาพอันสวยงามเหนือทะเลสาบเขื่อนชลประทานลำปาว และสภาพบ้านเมืองของเทศบาลตำบลโนนบุรี ด้านทิศตะวันออกจะมองเป็นทิวทัศน์อันงดงามของ ภูปอ ภูค่าว ภูเป้ง และภูกุ้มข้าว ประหนึ่งสวนพฤกษาธรรมชาติ ที่สร้างไว้อย่างงดงาม ด้านทิศตะวันตกจะมองเป็นทิวเขาคันโทในเขตอำเภอท่าคันโทที่อยู่ไกลสุดขอบฟ้า และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง การเดินทางขึ้นบนยอดเขาสามารถเดินทางได้ 2 ทาง คือ บันไดเดินเท้าจำนวน 417 ขั้น และถนนลาดยางระยะทาง 3 กิโลเมตร
ภาพ : 303 PR TEAM/POT โปรปริ้นท์ติ้ง
ข่าว : ไทบ้าน นิวส์ (พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร)