กรมชลประทาน ระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปติดตั้ง
เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังช่วยเหลือประชาชนคลี่คลายสถานการณ์
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 19 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยภูมิ อุบลราชธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และตรัง โดยสถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำยังทรงตัว และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานได้เร่งดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดต่าง ๆ เพื่อระบายน้ำให้ได้มากที่สุด จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
โดยที่จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบอุทกภัย 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอพิมาย อำเภอโชคชัย และอำเภอปักธงชัย สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้เร่งสูบน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยในพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนลำพระเพลิง ได้ทำการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 27 เครื่อง เร่งผลักดันน้ำไปลงแม่น้ำมูลให้เร็วที่สุด พร้อมกับนำรถแบคโฮ เข้ากำจัดวัชพืชบริเวณหน้าประตูระบายน้ำบ้านสุขัง ตำบลตะคุ อำเภอปักธงชัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำท่วมขัง
ด้านเขื่อนลำตะคอง มีปริมาณน้ำประมาณ 330 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 102 % ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 43 ล้าน ลบ.ม. จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ ไปส่งผลกระทบแต่อย่างใด การระบายน้ำจะดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ มีระดับน้ำลดลง ทั้งนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ได้ติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากจะมีการระบายน้ำออกจากอ่างฯ จะทำการแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงต่อไป
ขณะที่จังหวัดสระแก้ว มีฝนตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง บริเวณถนนศรีเพ็ญ อำเภอตาพระยา และบริเวณตลาดโรงเกลือ ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ ระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร และปริมาณน้ำในคลองยางล้นตลิ่งเข้าท่วมโรงเรียนนิคมสงเคราะห์ ตำบลเมืองไผ่ อำเภออรัญประเทศ โครงการชลประทานสระแก้ว ติตดั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 เครื่อง ช่วยเร่งการระบายน้ำ บริเวณสะพานบ้านแก่งสีเสียด ตำบลสระขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว พร้อมแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบถึงสถานการณ์
ส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ในเขตเทศบาลเมืองอุบลราชธานี ได้แก่ ชุมชนโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช 1 (ชุมชนวังแดง) ระดับน้ำสูงประมาณ 60-70 เซนติเมตร และชุมชนบูรพา 2 ระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร โครงการชลประทานอุบลราชธานี นำกระสอบทรายจำนวน 500 ใบ วางเป็นแนวกั้นน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง บริเวณโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช 1 (ชุมชนวังแดง) เพื่อสูบน้ำออกจากชุมชน
ทั้งนี้ในส่วนจังหวัดปราจีนบุรี เกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี ทำให้เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ตำบลบ้านนา ตำบลบ่อทอง ตำบลวังตะเคียน ตำบลย่านรี ตำบลเมืองเก่า และตำบลกบินทร์ โครงการชลประทานปราจีนบุรี ได้เร่งระบายน้ำออกจากทุ่งบริเวณประตูระบายน้ำบางกระดาน ประตูระบายน้ำบางกระเจ็ด และประตูระบายน้ำคูมอญ เพื่อเตรียมรองรับน้ำจากอำเภอกบินทร์บุรผ่านทางประตูระบายน้ำหาดยาง รวมทั้งเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักรเครื่องมือ และบุคลากรไว้พร้อมรับสถานการณ์น้ำให้สามารถช่วยเหลือได้ทันที
อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ตลอด 24 ชั่วโมง