การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 ( ภาคใต้ ) จ.ยะลา ได้ฤกษ์เปิดจ่ายกระแสไฟฟ้า
เข้าสู่โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ระยะที่ 1 พร้อมกับก่อสร้างสถานีไฟฟ้าสะเดา 2 ขนาด 50 เมกกะวัตต์
เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานรองรับการขยายตัวครอบคลุมพื้นที่ทั้งนิคมกว่า 630 ไร่
วันนี้ 12 ต.ค. 63 นายสัมฤทธิ์ โชติบัณ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( ภาค 4 ) เป็นประธานเปิดการจ่ายกระแสไฟฟ้าโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสงขลา โดยมี นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่ประเทศไทย ( กนอ. ) พร้อมด้วย นายสุภาพ กสิวงศ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 ( ภาคใต้ ) จ.ยะลา รวมทั้งผู้บริหาร พนักงาน PEA และผู้นำท้องที่ เข้าร่วมจำนวนมาก และหลังเสร็จสิ้นการกล่าวรายรายงาน และพิธีเปิด ก็ได้มีการสับสะพานเดินไฟเข้าสู่นิคมฯ โดยได้ฤกษ์ในเวลา 11.09 น. พอดิบพอดี
นายสัมฤทธิ์ โชติบัณ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( ภาค 4 ) เปิดเผยว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการก่อสร้างขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงสูงระบบ 33 กิโลโวลต์ จากโรงไฟฟ้าภายนอกมายังพื้นที่โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา ระยะที่ 1 โดยมีระยะทางงานก่อสร้างกว่า 7.69 กม. แบ่งเป็นการก่อสร้างระบบจำหน่ายแรงสูง 33 กิโลโวลต์ แบบเหนือดิน ในระยะทาง 7.15 กม. และแบบเคเบิ้ลใต้ดิน ในระยะทาง 0.546 กม. รวมมูลค่างานก่อสร้างทั้งสิ้น 33.8 ล้านบาท ในระยะเวลา 120 วัน โดยได้รับการว่าจ้างจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนอกจากงานก่อสร้างขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงสูง 33 กิโลโวลต์ จากภายนอกมายังพื้นที่แห่งนี้แล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังมีโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้า เพื่อร้องรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะแรก โดยการก่อสร้างสถานีไฟฟ้า สะเดา 2 ซึ่งสามารถรองรับความต้องการการใช้ไฟฟ้าได้ 50 เมกกะวัตต์ และก่อสร้างระบบจำหน่ายให้ครอบคลุมพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอีก 10 วงจร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพให้นิคมอุตสาหกรรมสงขลาแห่งนี้ ให้ดียิ่งขึ้น และหวังว่า จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการพัฒนาประเทศ และเป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคใต้ สร้างประโยชน์ให้เกิดแก่ผู้ประกอบการ และประเทศชาติ อย่างยั่งยืน
ด้าน นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่ประเทศไทย ( กนอ. ) กล่าวว่า ขณะนี้ในส่วนของโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมสงขลา ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 630 ไร่ มีความก้าวหน้าไปแล้ว 90% และคาดว่า น่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในช่วงต้นปีหน้า โดยเฉพาะการวางระบบสาธารณูปโภคต่างๆให้กับทางผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุน ซึ่งล่าสุดยืนยันชัดเจนแล้ว 4 ราย และยังมีอีกหลายรายที่อยู่ในระหว่างการพูดคุย ซึ่งส่วนหนึ่งล่าช้ามาจากช่วงโควิด 19
พร้อมกับเชิญชวนให้ทางผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในพื้นที่ ซึ่งมีหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยเฉพาโลจิสติกส์ การทำภาชนะและแพ็คเกจสินค้า หรือคลังสินค้า เนื่องจากอยู่หน้าด่านพรมแดนสะเดา ซึ่งมีความสะดวกที่จะเป็นที่ตั้งหรือรับส่งสินค้า เพื่อกระจายไปยังมาเลเซีย หรือประเทศที่ 3 ซึ่งคาดว่า นิคมแห่งเมื่อเติบโตขึ้นจะสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับทั้งผู้ประกอบการและคนในพื้นที่ รวมทั้งเศรษฐกิจในภาพรวม
ภาพ/ข่าว พิภพ ประดิษฐ์/มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา