กรรมการกองทุนหมู่บ้านร้องนายอำเภอเมืองศรีสะเกษให้ตรวจสอบ
การก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์หมู่บ้าน งปม.200,000 บาท ส่อไม่โปร่งใส
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 63 นายอุทัย อภัยวงศ์ กรรมการหมู่บ้านและกรรมการกองทุนหมู่บ้าน หมู่ที่ 2 อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 2 บ้านตำแย ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายศรชัย ศิละวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 2 ตำบลเดียวกัน ได้นำเอาสำเนาหนังสือ ลงวันที่ 5 ต.ค. 2563 ที่ส่งถึง นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ เรื่อง ขอความอนุเคราะห์นายช่างลงตรวจสอบการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์บ้านตำแย ต.หนองไผ่ อ.เมืองศรีสะเกษ เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนทุกแขนงของ จ.ศรีสะเกษ เพื่อขอให้สื่อมวลชนร่วมกันตรวจสอบเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย เนื่องจากเห็นว่า การก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ที่กำลังก่อสร้างอาจจะไม่ถูกต้องตามแบบรูปรายการก่อสร้างที่มีการออกแบบเอาไว้แล้ว โดยได้นำเอาแบบรูปรายการก่อสร้างมาให้สื่อมวลชนได้ตรวจสอบด้วย
นายอุทัย อภัยวงศ์ กรรมการหมู่บ้านและกรรมการกองทุนหมู่บ้าน หมู่ที่ 2 กล่าวว่า กองทุนหมู่บ้าน บ้านตำแย หมู่ที่ 2 ได้รับงบประมาณสนับสนุนการก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์เก็บวัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ 200,000 บาท เพื่อใช้เก็บวัสดุอุปกรณ์ที่ให้บริการชุมชนที่มีขนาดใหญ่และจำนวนมาก วิธีดำเนินการโครงการโดยการจ้างช่างและแรงงานในชุมชนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้ แต่ปรากฏว่า จากการที่ตนและคณะกรรมการหมู่บ้านได้ตรวจสอบการก่อสร้างอาคารดังกล่าวแล้วพบว่า มีความผิดสังเกตุไม่น่าที่จะถูกต้องตามแบบรูปรายการก่อสร้าง คือ หมวดงานโครงสร้าง ตามแบบรูปรายการก่อสร้าง จะต้องเป็นเหล็กตัวซี ที่ใช้ในการก่อสร้าง แต่ปรากฏว่า ในการก่อสร้างกลับมีการเปลี่ยนไปใช้เหล็กกล่อง แทนเหล็กตัวซี ส่วนจันทันด้านบน ก็ไม่ครบถ้วนตามแบบรูปรายการที่กำหนดไว้ ตนจึงได้ทำหนังสือไปยื่นต่อ นายสมเกียรติ ศรีขาว นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ เพื่อขอให้จัดส่งช่างที่มีความรู้ไปตรวจสอบการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ งปม. จำนวน 200,000 บาท ในครั้งนี้ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณของทางราชการ
ทางด้าน นายสมเกียรติ ศรีขาว นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว ซึ่งกองทุนหมู่บ้านเป็นนิติบุคคล เรื่องของกองทุนหมู่บ้านทางราชการจะเข้าไปแทรกแซงหรือดำเนินการใด ๆ ไม่ได้ เนื่องจากว่า เจตนารมณ์ของกองทุนหมู่บ้านต้องการให้ชาวบ้านดำเนินการเอง ตรวจรับ เบิกจ่ายเงินเอง เรื่องนี้ชาวบ้านจะต้องดำเนินการปรึกษาหารือกัน หากมีเรื่องที่เป็นเหตุแห่งความสงสัย จะต้องให้กองทุนที่จังหวัดอุบลราชธานี มาทำการตรวจสอบให้ แต่ว่าอย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ทางราชการได้รับความเสียหาย ตนจึงได้มอบหมายให้พัฒนาการอำเภอเมืองศรีสะเกษ ไปแนะนำชี้แจงให้ทราบถึงแนวทางในการที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนต่อไปแล้ว
ข่าว/ภาพ บุรทัศน์ ศรีสะเกษ