รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีมเยี่ยมชม รพ. บำรุงราษฎร์
ในฐานะโรงพยาบาลกักกันแห่งรัฐทางเลือก หรือ AHQ
ชูคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัย สร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
ดร. สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ. ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) นำคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานโรงพยาบาลกักกันแห่งรัฐทางเลือก (Alternative Hospital Quarantine – AHQ) ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โดยมี ภญ. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ผู้อำนวยการด้านบริหาร (CEO) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ให้การต้อนรับและนำชมขั้นตอนและมาตรฐานการการดูแลผู้ป่วยต่างชาติที่เดินทางเข้ารับการรักษาพยาบาลในรูปแบบของ AHQ โดยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีผู้ป่วยให้ความเชื่อมั่นเข้ารับการรักษาร้อยละ 40 จากกลุ่มสถานพยาบาล AHQ ที่เข้าร่วมโครงการ นับตั้งแต่ทางการได้อนุญาตให้ผู้ป่วยต่างชาติสามารถเดินทางเพื่อเข้ารับการรักษาในประเทศได้ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ นอกจากความสำเร็จในการส่งมอบการรักษาด้วยประสบการณ์ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์สั่งสมมาตลอด 40 ปี และการให้บริบาลด้วยความเอื้ออาทรด้วยน้ำใจแห่งความเป็นคนไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บำรุงราษฎร์ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้ป่วยเป็นจำนวนมากทั่วโลก โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ยังมีการเตรียมพร้อมในการรับสถานการณ์การแพร่ระบาดได้อย่างดี ซึ่งทางโรงพยาบาลได้มีประสบการณ์การตรงในการรับมือมาตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก และโรคเมอร์ส
จากสถานการณ์โควิด-19 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในระยะเริ่มต้น เพื่อบริหารจัดการการดำเนินงานในช่วงโควิด-19 ได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์คอยติดตามข้อมูลข่าวสารจากองค์กรภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์สำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจในการปรับเปลี่ยนการรับมือให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วง โดยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ยังคงยึดหลักผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางในทุกๆ การตัดสินใจ การปรับตัวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างถูกต้อง ถูกเวลา และตรงกับความต้องการหรือพฤติกรรมของผู้ป่วยที่เปลี่ยนไป อาทิ การแยกพื้นที่บริการผู้ป่วยโรคหวัด การให้บริการ 60 second service การให้บริการ teleconsultation ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยต่างชาติที่อาจยังไม่สะดวกเดินทางเข้ามารับการรักษาในช่วงนี้ ที่สำคัญ การดำเนินการทุกอย่างของโรงพยาบาลฯ มุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยสูงสุดของทั้งผู้ป่วย ญาติ และทุกคนในโรงพยาบาล ตลอดจนความมุ่งมั่นเพื่อผลลัพธ์ของการรักษาอย่างเหมาะสมและดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยอ้างอิงจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับและพิสูจน์ได้เท่านั้น
ซึ่งจากการที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มุ่งมั่นในการดำเนินการตามมาตรฐานการตรวจคัดกรองและป้องกันอย่างเข้มงวดและสม่ำเสมอตลอดช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้องค์กรอิสระของสหรัฐอเมริกา Global Health Accreditation หรือ GHA ได้มอบประกาศนียบัตร GHA COVID-19 ให้กับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นแห่งแรกของโลก เพื่อรับรองว่าโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยในการดูแลผู้ป่วยต่างชาติในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งไม่เพียงแต่นำชื่อเสียงมาให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เท่านั้น แต่ยังสร้างชื่อเสียงและความเชื่อมั่นให้กับการรักษาพยาบาลของประเทศอีกด้วย