แม่ทัพภาค4 นมัสการเจ้าคณะจังหวัด รับข้อชี้แนะแก้ปัญหาใต้
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 3 ต.ค. 63 ที่วัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 ได้เดินทางไปนมัสการพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส และเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา หลังได้รับแต่งตั้งเป็นแม่ทัพภาค 4 คนใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคล โดยมี พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทั้ง 5 กรม ที่ถูกส่งตัวมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองคอยให้การต้อนรับ
โดย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 ได้ถือโอกาสพูดคุยกับพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ด้วยภาษาใต้และเป็นกันเอง เพื่อรับข้อเสนอแนะและแนวทางการทำงาน ด้านแก้ไขปัญหาความมั่นคง และการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยพุทธและมุสลิม ที่สามารถร่วมอยู่ในสังคมได้ด้วยพาหุวัฒนธรรม
ซึ่งพระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวสรุป ปัจจัยสำคัญถ้าสามารถลบภาพลักษณ์พื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ให้มีความสันติสุขแบบยั่งยืน คือ ทำอย่างไรให้กลุ่มผู้เห็นต่างที่ปัจจุบันมีความระล่ำระสายเพราะขาดผู้นำ ให้กลับมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เพราะปัจจุบันกลุ่มผู้เห็นต่างเหล่านี้ ทราบว่าถูกหลอกเป็นเครื่องของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมาต่อสู้ด้านกระบวนการยุติธรรม และเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เห็นเพียงค่าจ้างน้อยนิดในการลงมือก่อเหตุ โดยมีการว่าจ้างเป็นทอดๆซึ่งไม่ทราบใครอยู่เบื้องหลัง
นอกจากนี้ พระเทพศีลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ยังได้กล่าวสรุปเพิ่มเติมในเรื่องของการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของปัญหาอาชญากรรม ที่เกี่ยวโยงไปถึงปัญหาความมั่นคง เพียงค่าจ้างไม่กี่บาทเพื่อนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และต้องขอบคุณในเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 ที่ทำให้เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาลดลง เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายได้สะดวก เพราะหลังจากก่อเหตุร้ายแล้ว ส่วนใหญ่ที่ผ่านมามักจะหลบหนีไปกบกานที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่เมื่อโควิด 19 ระบาด ทำให้เพื่อนบ้านมีความเข้มงวดในการเดินทางออกเข้าประเทศ โดย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 จึงได้น้อมรับข้อชี้แนะของเจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส นำไปปฏิบัติเพื่อไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ตรงจุด ก่อนที่จะนมัสการลากลับ
ด้าน พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 1 และ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าในสถานการณ์ความรุนแรงและความพยายาม ในการก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นในส่วนของกำลังของเรามีช่องว่าง มีจุดอ่อนตรงไหนมีโอกาสที่ถูกกระทำ นี่เป็นความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อที่จะแสดงออกถึงความมีตัวตน ในส่วนของเราเองผมได้เน้นย้ำให้กองกำกลังที่มีอยู่ในพื้นที่ ได้ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง และติดตามหลังจากเขาก่อเหตุแล้วเพื่อหามาตรการในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งขณะนี้เรากำลังติดตามเหตุการณ์ทั้ง 2 จุดนั้น ก็ให้ความเชื่อมั่นได้ว่าเรายังคงใช้นโยบายของอดีตแม่ทัพภาค 4 ที่ท่านวางรากฐานไว้
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ