บก.สส.สตม. ป้องกันเข้มแนวชายแดน สกัด COVID-19 แรงงานเถื่อน

บก.สส.สตม. ป้องกันเข้มแนวชายแดน สกัด COVID-19 แรงงานเถื่อน

 

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.สส.สตม. ,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ ผกก.2 บก.สส.สตม.ร่วมแถลงข่าวจับกุม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.สตม.ได้สืบสวนทราบว่ามีขบวนการลักลอบนำพาคนต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยใช้เส้นทาง สระแก้ว-เขาหินซ้อน ด้วยรถกระบะบรรทุก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทาง จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น.ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์ก็พบรถกระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไททัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนกรุงเทพฯ โดยกระบะท้ายมีการดัดแปลงต่อเป็นตู้สูงมิดชิด ขับผ่านเส้นทางดังกล่าว เป็นรถลักษณะต้องสงสัย คือมีการบรรทุกหนัก วิ่งด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตามไปจนสามารถควบคุมรถได้ จึงได้แสดงตัวพร้อมทั้งสั่งให้คนขับรถดังกล่าวหยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบทราบว่า คนขับรถชื่อ นายอดุล อายุ 44 ปี สัญชาติไทย ตรวจสอบภายในห้องโดยสารและหลังตู้กระบะท้ายเจ้าหน้าที่พบคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวน 23 คน นั่งมาลักษณะแออัดในรถคันดังกล่าว ซึ่งคนต่างด้าวชาวกัมพูชาทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายอดุล (คนขับรถ) แจ้งกับชุดจับกุมว่าตนได้รับว่าจ้างจาก นายเอก ไม่ทราบนามสกุล สัญชาติไทย ให้ทำหน้าที่ขับรถคันดังกล่าวมารับคนต่างด้าวกัมพูชาที่บริเวณแยกโคกสูง ต.โคกสูง อ.โคกสูง จว.สระแก้ว เพื่อนำไปส่งยังปลายทางที่ จว.ชลบุรี จว.นครปฐม จว.ฉะเชิงเทรา และ กรุงเทพฯ โดยได้รับค่าจ้างขับรถจากนายเอก เป็นเงิน 1,500 บาท/เที่ยว/คน และเมื่องานเสร็จจะได้เพิ่มอีกตามจำนวนคนที่นำไปส่ง 100 บาท/คน

จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวทั้งหมดให้การว่า ลักลอบเข้าเมืองมาทางช่องทางธรรมชาติ โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เดินเท้าเข้ามาเพื่อขึ้นรถที่จุดนัดพบ ต.โคกสูง เพื่อเข้ามาลักลอบทำงานในประเทศไทย เสียเงินค่าดำเนินการคนละประมาณ 5,000 บาท จากนั้นชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการกวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในทุกมิติ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป็นการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคร้าย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง