นายก อบจ.นครพนม เตรียมผุดโครงการสกายวอล์ค”(SkyWalk) สักการะพญาศรีสัตตนาคราช 180 องศา พร้อมหาจุดเช็คอินสร้างหอดูดาว ต่อยอดแหล่งท่องเที่ยวทันสมัย

 นายก อบจ.นครพนม เตรียมผุดโครงการสกายวอล์ค”(SkyWalk)

สักการะพญาศรีสัตตนาคราช 180 องศา พร้อมหาจุดเช็คอินสร้างหอดูดาว ต่อยอดแหล่งท่องเที่ยวทันสมัย

 

วันที่ 20 กันยายน 2563 ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(นายก อบจ.นครพนม) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เตรียมแผนผลักดันสร้างสกายวอล์ค”(SkyWalk) ริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณองค์พญาศรีสัตตนาคราช ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีเสน่ห์นอกจากนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป จะสามารถเห็นองค์พญาศรีสัตตนาคราชบริเวณด้านหน้าได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังชื่นชมทัศนียภาพแม่น้ำโขงทอดยาวเป็นสาย และฝั่งเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว

นายก อบจ.นครพนม เปิดเผยว่า เมื่อครั้งได้ให้การต้อนรับคณะติดตามงบประมาณของวุฒิสภา ที่ได้มาตรวจเยี่ยมจังหวัดนครพนม ทางเทศบาลเมืองนครพนมได้เชิญไปล่องเรือชมวิวสองฟากฝั่งแม่น้ำโขง ตนมีโอกาสนั่งเรือไปด้วย ซึ่งในคณะกรรมการฯวุฒิสภามี พลเอก สนธยา ศรีเจริญ อดีตผู้บังคับการทหารบกฯนครพนม ค่ายพระยอดเมืองขวาง ปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา ท่านเป็นหนึ่งในตำนานผู้สร้างพญาศรีสัตตนาคราช เมื่อเรือแล่นผ่านองค์พญาศรีสัตตนาคราช จึงมีไอเดียว่ามาสร้างสกายวอล์คกันดีหรือไม่ เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธามากราบสักการะองค์พญานาคตรงด้านหน้าอย่างใกล้ชิด และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทันสมัย โดยแนวคิดจะสร้างสกายวอล์คยื่นออกไปจากฝั่งเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ประชาชน นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปกราบไหว้และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้อย่างสะดวก หรือจะยืนชมวิวอยู่บริเวณนั้นได้นานแค่ไหนก็ได้ ตนเห็นเป็นแนวคิดที่ดี จึงเตรียมประชุมหารือกับจังหวัด เทศบาล หอการค้าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อเห็นพ้องตรงกันจะตั้งงบประมาณสำรวจ และจัดหางบประมาณมาสร้าง

ถ้าตรงนี้เกิดขึ้นจะสร้างมูลค่าในการท่องเที่ยว เป็นการทำให้ผู้มีจิตศรัทธาขอพรได้รอบทิศ 180 องศา อีกหนึ่งโครงการคือหอดูดาวของนครพนม แรกเริ่มเล็งมาที่บริเวณศูนย์วิจัยพืชสวนที่อยู่ติดกับ อบจ.ฯ แต่ถ่ายภาพทางอากาศแล้วจากจุดนี้ขึ้นไปสูง 60 เมตร จึงจะมองเห็นองค์พญาศรีสัตตนาคราช ถือว่ายังไม่เหมาะ ก็จะได้หารือกับทางเทศบาลเมือง และ ผวจ.ฯว่ามีความคิดเห็นอย่างไร และหอดูดาวจะสร้างจุดไหนที่เหมาะสมที่สุด แต่โครงการแรกคือการสร้างสกายวอล์ค เบื้องต้นได้คุยกับนายกเทศมนตรี ให้ใช้งบประมาณของ อบจ.ฯก่อน ถ้าไม่พอก็จะของบบูรณาการของจังหวัด เป็นงบประมาณของกลุ่มสนุก เบื้องต้นประมาณการว่าการสร้างสกายวอล์ค ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 50 ล้าน

การกำเนิดพญาศรีสัตตนาคราช นาคาธิบดีแห่งศรีโคตรบูรณ์ หลังจากเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2554 ทำให้เปิดจังหวัดจากซอยตัน เป็นจังหวัดที่มีเส้นทางเชื่อมโยงการค้า การลงทุน เป็นประตูออกสู่อาเชี่ยนและจีนตอนใต้-ตะวันออกได้รวดเร็วและใกล้ ในยุคที่นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คนที่ 38 นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ฯลฯ ได้จัดเวทีเสวนาพูดคุยร่วมกับผู้นำชุมชนและท้องถิ่น ว่า ต้องการจะสร้างประติมากรรมที่บริเวณลานพนมนาคาและประติมากรรมนั้น จะต้องเกี่ยวข้อง สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนในท้องถิ่น ทุกคนมีความคิดเห็นตรงกันว่าควรเป็นพญานาค เพราะพญานาคมีลักษณะที่งดงามและอยู่ในแม่น้ำโขงเป็นจุดขายเมืองนครพนม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมื่อนักท่องเที่ยวมาไหว้พระธาตุพนมที่ อ.ธาตุพนม เสร็จแล้วสามารถมาเที่ยวต่อพักค้างคืนที่ตัวเมืองนครพนม แนวคิดการสร้างพญานาคได้ถูกนำไปกราบนมัสการท่านพระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม/เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ซึ่งท่านได้ให้คำแนะนำไปศึกษาตำนานพญานาค ทั้งที่วัดพระธาตุพนมฯ วัดมรุกขนคร วัดธาตุมหาชัย พร้อมกับกล่าวว่าโครงการที่คิดขึ้นนี้เป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่มาก มีความสำคัญเป็นงานที่ยาก แต่จะสำเร็จด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย และเมื่อก่อสร้างเสร็จก็ให้ทำพิธีบวงสรวงใหญ่ให้ถูกต้อง จากนั้นก็เริ่มการขับเคลื่อนแนวคิดสู่การเขียนโครงการและสู่การปฏิบัติการ โดยมุ่งเป้าหมายคือเป็นเรื่องของการพัฒนาที่จะสร้างประติมากรรมพญานาคให้เป็นจุดแลนด์มาร์คที่สำคัญ และเป็นประโยชน์ให้กับประชาชนชาวจังหวัดนครพนม

หลังนายอนุกูลได้เสนอโครงการผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารจังหวัดแบบบูรณาการ ฯลฯ ก็ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อปี พ.ศ.2557 นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ก็มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คนที่ 39 ได้สืบสานงานก่อสร้างประติมากรรมพญานาค เพื่อเป็นแลนด์มาร์คของเมืองนครพนม และยกระดับพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก(สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร) เพื่อความเป็นเลิศในอนุภาคอินโดจีนรองรับ AEC แต่โครงการยังไม่แล้วเสร็จ ต่อมาในปี พ.ศ.2558 พลตรี สนธยา ศรีเจริญ ผู้บังคับการทหารบกจังหวัดนครพนม(ในขณะนั้น) ได้นำกองกำลังทหาร นักพัฒนา อาสาสมัคร ผู้มีหัวใจบำรุงพระพุทธศาสนาจากค่ายพระยอดเมืองขวาง มาช่วยเป็นกำลังเสริม ปรับปรุงก่อสร้างแลนด์มาร์ค ฯลฯ ช่วยกันออกแบบจัดภูมิทัศน์เหนือเขื่อนริมแม่น้ำโขงให้สวยงามสะดุดตา ภายใต้ข้อจำกัดของงบประมาณที่ต้องบริหารจัดการให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากได้แรงกายจากทหารค่ายพระยอดเมืองขวาง แรงใจจากประชาชน ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองฯ บริจาคข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงดูกองกำลังพลที่มาปฏิบัติงาน ก่อให้เกิดความสามัคคีผูกพันระหว่างส่วนราชการ ทหาร และประชาชนนำไปสู่ความก้าวหน้าของการก่อสร้างแลนด์มาร์คนครพนมจนแล้วเสร็จ

กระทั่ง นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คนที่ 40 ได้จัดสรรงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการเพิ่มเติม และแล้วองค์พญานาคนามพญาศรีสัตตนาคราช ก็เดินทางจากโรงหล่อ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ก็เดินทางมาถึงจังหวัดนครพนมในวันที่ 21 สิงหาคม 2559 เวลา 21.09 น. ท่ามกลางพี่น้องประชาชนที่มาเฝ้ารอรับองค์พญาศรีสัตตนาคราชอย่างล้นหลามโดยมิได้นัดหมาย พร้อมจัดงานสมโภชอย่างยิ่งใหญ่ 9 วัน 9 คืน(9-17 กันยายน 59) จากนั้นเป็นต้นมาชื่อพญาศรีสัตตนาคราชก็เป็นที่รู้จักไปทั่วสารทิศ โดยเฉพาะความศักดิ์สิทธิ์ด้านโชคลาภ วาสนา มีผู้คนแวะเวียนมากราบสักการะไม่ขาดสาย

ปริศนาธรรม พญาศรีสัตตนาคราช คือ รูปลักษณะเป็นองค์พญานาค 7 เศียร ประทับพักอิริยาบถสงบนิ่งขนดลำตัว 3 ชั้น บ่งบอกถึงความสงบสุขของจังหวัดนครพนมที่พญานาคเลือกเป็นที่ประทับ รูปทรง 7 เศียรลักษณะทรงบัวสัตตบงกช สื่อถึงความคุ้มครองปกปักรักษา โอบอ้อมอารีเป็นลักษณะของผู้ที่บำเพ็ญศีล ทานบารมี เมื่อรวมกันแล้วในตำนานพญานาคจะเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา หน้าหรือลำตัวพญานาคจะอวบอ้วน เยือกเย็นเสมือนผู้ใหญ่ใจดี ที่สลัดสิ้นซึ่งกิเลส ตัณหา ราคะ เปี่ยมด้วยคุณธรรม ผู้มาขอพรจากท่านจะได้รับความสมประสงค์ สมปรารถนาทุกคน สร้อยสังวาลย์ที่ประดับพระศอสื่อถึงสัญลักษณ์ของจังหวัดนครพนม ซึ่งมีองค์พระธาตุพนมอันเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องพุทธศาสนิกชนทั่วโลก และอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต

โหราจารย์ทางโหราศาสตร์อธิบายปริศนาธรรมทิศที่ตั้งว่า การตั้งองค์พญาศรีสัตตนาคราชให้หันหน้าไปทางทิศเหนือเฉียงตะวันออก(ที่ 6 องศา 20 พิลิปดา) สายตาพญาศรีสัตตนาคราชจะมองตัวเมืองนครพนม แสดงถึงการปกปักรักษาคุ้มครองเมืองนครพนม อันจะนำสู่ความเจริญรุ่งเรือง กว้างไกลยิ่งใหญ่ไพศาล และแสดงถึงการว่ายไหลทวนกระแสน้ำโขงขึ้นไปทางทิศเหนือเปรียบประดุจการมีพละกำลังที่แข็งแรง การหันหน้าเฉียงตะวันออกแสดงถึงหนทางที่ออกไปสู่แสงสว่างทุกช่องทางการเศรษฐกิจค้าขายลงทุนคล่องตัว ปราศจากปัญหาอุปสรรคทั้งปวง ซึ่งหากหันหน้าไปทางทิศใต้ก็จะเป็นการไหลไปตามแม่น้ำโขง เปรียบเสมือนปลาที่กำลังจะตาย ไม่มีแรงว่ายทวนน้ำ จึงปล่อยให้ไหลไปตามสายน้ำ หากหันไปทางทิศตะวันตกก็ดุจดั่งพระอาทิตย์อัสดง กำลังจะลับเหลี่ยมโลก นำไปสู่ความมืดของรัตติกาล บอดสนิทในโชคลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อันผู้คนมิพึงปรารถนาได้พบพาน

องค์พญาศรีสัตตนาคราชสร้างด้วยทองเหลืองทั้งองค์ มีขนาดกว้าง 4.49 เมตร สูง 10.90 เมตร น้ำหนักรวม 9 ตัน ประดิษฐานอยู่บนแท่นรวมความสูง 16029 เมตร ถือว่าเป็นพญานาคองค์เดียวที่ไม่เหมือนใครในโลก เพราะที่พระศอมีสร้อยสังวาลย์ที่นำเอาสัญลักษณ์เหนือซุ้มประตูองค์พระธาตุพนมมาสวมคล้องไว้ แสดงถึงองค์พญานาคที่มีความผูกพัน เชื่อมโยง พิทักษ์ ปกปักรักษาองค์พระธาตุพนมตามตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมานานชั่วอสงไขย

เทพพนม รายงาน

You May Have Missed!

1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
คณะกรรมการบริหารโรงเรียนปลูกปัญญา แต่งตั้ง “บิ๊กทิน” ผจก.ฟุตซอลทีมชาติไทย  เป็นประธานที่ปรึกษาโรงเรียน
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ เตรียมจัดงานใหญ่ส่งท้ายปี งานมหกรรม ภูมิพลังแผ่นดิน
1 Minute
กิจกรรมเพื่อสังคม
ไม่สนคำ ว่าทำบุญเอาหน้า…เสี่ยเดย์ นักบุญเจ้าเดิมช่วยการศึกษาอีกกว่า 3 ล้าน
0 Minutes
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร จัดงานวันสถาปนาครบรอบ 53 ปี ชูแนวคิด ทุ่มเทอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างประสบการณ์สุขภาพที่เหนือชั้น เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพิ่มการยอมรับและมั่นใจกับผู้มารับบริการ