เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดงานโครงการ “Healthy Thailand ผู้ประกันตนตระหนักรู้ สุขภาวะที่ดี สู่ฐานวิถีชีวิตใหม่” โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร ชลบุรี

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดงานโครงการ “Healthy Thailand ผู้ประกันตนตระหนักรู้ สุขภาวะที่ดี สู่ฐานวิถีชีวิตใหม่” โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร ชลบุรี

 

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563 เวลา 09.30 น. ณ โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร จังหวัดชลบุรี นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในการจัดงานโครงการ “Healthy Thailand ผู้ประกันตนตระหนักรู้ สุขภาวะที่ดี สู่ฐานวิถีชีวิตใหม่” โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน , นางสาวภคมน ศิลานุภาพ ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพสำนักงานประกันสังคม , นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม คณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน , นายไพบูลย์ เอกแสงศรี กรรมการผู้จัดการเครือโรงพยาบาลวิภาราม , นายแพทย์ธนู ลอบันดิส ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร , พลโท นายแพทย์พร้อมพงษ์ พีระบูล ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ ด้านการประกันสังคมในคณะกรรมาธิการแรงงาน วุฒิสภา ,  นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม ให้การต้อนรับ

นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวกับสื่อมวลชนว่า กระทรวงแรงงาน โดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่ากระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ให้ไปสู่เป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคให้กับผู้ประกันตนมีสุขภาพที่ดี โดยใช้หลักการ “ป้องกัน ดีกว่าแก้ไข” รวมถึงการปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับบริการที่ดีมีมาตรฐาน เพื่อให้แรงงานได้มีหลักประกันที่ดี เหมาะสมในการดำรงชีวิต เพราะหากผู้ประกันตนมีสุขภาวะที่ดี ย่อมเกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับการจัดงานโครงการ “Healthy Thailand ผู้ประกันตนตระหนักรู้ สุขภาวะที่ดี สู่ฐานวิถีชีวิตใหม่”

ในครั้งนี้ ได้กำหนดให้จัดกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพ การให้ความรู้ด้านสุขภาพที่สอดคล้องกับฐานวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาให้บริการด้านการแพทย์ กระทรวงแรงงานพร้อมที่จะผลักดันภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อร่วมมือดูแลสุขภาพให้แก่ผู้ประกันตนให้ได้รับการตรวจสุขภาพ เพื่อค้นหาโรคและเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงโรคเนื่องจากการทำงาน และโรคที่ไม่เนื่องจากการทำงาน มีการปรับสภาพแวดล้อม และสร้างความปลอดภัย จะส่งผลให้ผู้ประกันตน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไปกับการรักษาพยาบาล และสามารถลดจำนวนวันลางาน รวมทั้งลดอัตราการเจ็บป่วยเรื้อรัง ที่ทำให้เกิดอันตราย พิการ และเสียชีวิตลงได้ อย่างไรก็ดีกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ยังได้มีนโยบายด้านสิทธิประโยชน์ที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันโรคของผู้ประกันตน เช่น การตรวจสุขภาพเชิงรุกแก่ผู้ประกันตน จำนวน 14 รายการ และมีการปรับปรุงเพิ่มสิทธิประโยชน์ในรายการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระบบประกันสังคม กรณีฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine) สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ปีละ 1 ครั้ง โดยจะเริ่มดำเนินการในสถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด ในวันที่ 15 ตุลาคม 2563

 

เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ ตนต้องขอขอบคุณโรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร จังหวัดชลบุรี ที่ได้ดำเนินการจัดให้บริการตรวจสุขภาพ โดยมีผู้ร่วมงาน 300 คน และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้แก่ กรมอนามัย กรมสุขภาพจิต ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เข้าร่วมจัดนิทรรศการเกี่ยวกับองค์ความรู้ให้กับผู้ประกันตนทิศทางการพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของสำนักงานประกันสังคม นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มีการเสวนา ในหัวข้อ “ทิศทางบริการส่งเสริมสุขภาพของสำนักงานประกันสังคม แบบวิถีชีวิตใหม่ New Normal ให้กับผู้ร่วมงาน อีกด้วย

 

 

 

 

 

ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน