เตรียมพบโฉมใหม่ท่องเที่ยวฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ชู 3 เส้นทางใหม่สู่ศูนย์เรียนรู้โคนมอาชีพพระราชทาน
อ.ส.ค. เตรียมปรับโฉมเส้นทางท่องเที่ยวฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ฉลองครบรอบ13ปีการเปิดบริการท่องเที่ยงเชิงเกษตร เพื่อดึงดูดและสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือน ศึกษา เรียนรู้ โคนมอาชีพพระราชทานฟาร์มโคนมแห่งแรกของประเทศไทย
นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า เพื่อเปิดมิติใหม่การท่องเที่ยวฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ให้เกิดความทันสมัยและน่าสนใจยิ่งขึ้น อ.ส.ค. มีแผนเตรียมปรับโฉมเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ โดยเน้นเพิ่มกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ สร้างฟาร์มจำลองสร้างรูปแบบฟาร์มโคนม รวมทั้งตกแต่งทัศนียภาพให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดและสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ที่เป็นฟาร์มโคนมแห่งแรกของประเทศไทยและถือเป็นฟาร์มโคนมพระราชทาน ซึ่งเกิดจากสายพระเนตรที่กว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงห่วงใยราษฎร อยากให้มีอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน อยากให้มีอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน และมีอาหารที่มีประโยชน์อย่างน้ำนมโคไว้บริโภค ซึ่งนับเป็นเรื่องใหม่ในยุคนั้น จึงทรงมีพระราชดำรินำอาชีพการเลี้ยงโคนมเข้ามาในเมืองไทยเป็นครั้งแรก ณ ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คแห่งนี้ และต้องการขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ อ.ส.ค. ยังได้ดำเนินการสำรวจและศึกษาเส้นทางท่องเที่ยว(Tourism route) ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คใหม่ใน3 เส้นทางหลัก ประกอบด้วย 1. เส้นทางการนำชมฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ค
2.เส้นทางศูนย์เรียนรู้ฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ค และ3 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “เขาตาแป้น” รวมทั้งตกแต่งทัศนียภาพให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดและสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนและรำลึกถึงฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ฟาร์มโคนมแห่งแรกของประเทศไทยและถือเป็นฟาร์มโคนมพระราชทาน ซึ่งเกิดจากสายพระเนตรที่กว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ทรงมีพระราชดำรินำอาชีพการเลี้ยงโคนมเข้ามาในเมืองไทยเป็นครั้งแรก ณ ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คแห่งนี้
และต้องการขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
สำหรับเส้นทางที่ 1 คือ คือ เส้นทางชมฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ค เริ่มต้นด้วยการนำชมศูนย์เรียนรู้ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค ต้นประดู่แดง/ทุ่งดอกไม้ (แปลง 13) อาคาร 1962 (ห้องฉายวีดีทัศน์,รีดนม,ป้อนนมลูกโค,โชว์บ่วงบาศก์) ฟาร์มจำลอง (อาคาร 45 ปี) แปลงเกษตรพอเพียง (การแสดงม้าและโชว์คาวบอย) ท่าน้ำใจ (กังหันน้ำชัยพัฒนา)และ ร้านไทย – เดนมาร์ค (ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ อ.ส.ค. และของฝากต่าง ๆ) และร้าน Thai-Denmark Milk Land
ส่วนเส้นทางที่ คือเส้นทางศูนย์เรียนรู้ฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ค เริ่มต้นด้วยการนำเยี่ยมชมอาคาร อาคารวัวแดง เป็นอาคาร แม่ลูก เพื่อไว้จัดแสดง และขายสินค้าของ อ.ส.ค. มีการจำลองการเลี้ยงโคนม และ การจำลองฟาร์มเลี้ยงโคนม การรีดนม และผลิตภัณฑ์ของ อ.ส.ค. เป็นต้น โดยแบ่งเป็นอาคารแม่ จะมีการจัดแสดงแนวพระราชดำริ การพัฒนา เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อีกทั้งยังมีการจัดแสดงกระบวนการผลิตตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ มีการจัดแสดงผลการพัฒนาของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ได้รับรางวัลพระราชทาน รวมไปถึงมีพื้นที่การขายสินค้าและของฝาก ส่วนอาคารลูก จะมีการจัดแสดงและสาธิตการเลี้ยงโคนม (ฟาร์มจำลอง) การรีดนมด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง โดยภายในศูนย์การเรียนรู้ฟาร์มโคนมไทย – เดนมาร์ค จะประกอบไปด้วย 10 ฐาน หรือ กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับอาชีพการเลี้ยงโคนม ณ ศูนย์เรียนรู้ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค
ส่วนเส้นทางที่3 คือเส้นทางการศึกษาธรรมชาติเขาตาแป้น : สู่โคนมอาชีพพระราชทาน ประกอบไปด้วย อาคารรับรอง ห้องฉายวีดีทัศน์ รับชมการนำเสนอประวัติความเป็นมาของ ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค และ อ.ส.ค. ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงเป็นพระบิดาแห่งการโคนมไทย
และเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อีกทั้งยังมีการศึกษาฟอสซิล การศึกษาชั้นหิน กิจกรรมนักสืบสายน้ำจากตาน้ำผุด กิจกรรมศึกษาการจัดการฟาร์มโคนม ซึ่งโดยพิเศษที่อาจเพิ่มเติมขึ้นมา รวมทั้ง ยังได้ศึกษารูปแบบเส้นทางสำหรับรถยนต์ การเดิน และการขี่จักรยาน รวมทั้งในอนาคตยังมีแผนจัดภูมิทัศน์ของ อ.ส.ค. มีพื้นที่ที่สามารถสร้างเป็นแหล่งออกกำลังในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การเดิน การวิ่งออกกำลัง การขี่จักรยาน ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาเป็นลำดับต่อไป