ประธานสภาอุตสาหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวศรีสะเกษชวนไหว้พระวัดไพรพัฒนาชมผาพญากูปรีชายแดนไทย-กัมพูชา
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวศรีสะเกษ ได้นำนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพมหานคร ว่าที่ร้อยตรี ภานุพงษ์ สุทธิสาร อดีตผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียนกรุงเทพมหานครและนางศิริกุล สุทธิสาร อดีตวิทยากรระดับ 10 ฝ่ายที่ดินการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ และคณะจำนวน 12 คน ไหว้พระกราบขอพรจากสรีระร่างหลวงปู่สรวงและทำบุญปิดทองรูปเหมือนหลวงปู่สรวง ไถ่ชีวิตโคกระบือ ทั้งนี้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวต่อไป
หลังจากนั้น ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ก็ได้นำคณะนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพมหานคร เที่ยวชมผาพญากูปรีชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายบ้านแซรไปร -ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ประมาณ 4 กม. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศบริสุทธิ์ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจ ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ร่วมกับ พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ อดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ในขณะนั้น และทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี อบต.ไพรพัฒนา และทุกส่วนราชการได้จัดสร้างขึ้นมา ปรากฏว่า ในช่วงเย็นของวันนี้ ได้มีบรรดานักท่องเที่ยวพากันนำครอบครัว ญาติพี่น้องพากันเดินทางมาสูดอากาศบริสุทธิ์และชมบรรยากาศยามเย็นของผาพญากูปรีกันอย่างคึกคักมาก นักท่องเที่ยวต่างพากันบันทึกภาพความสวยงามไว้เป็นที่ระลึกและพากันชมความสวยงามตามธรรมชาติของต้นน้ำห้วยสำราญที่กั้นระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กับ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ โดยต้นน้ำห้วยสำราญเป็นลำห้วยสำคัญที่ไหลลงไปสู่ตัว จ.ศรีสะเกษ เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคหล่อเลี้ยงประชาชนชาวศรีสะเกษ
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวศรีสะเกษ กล่าวว่า จุดชมวิวผาพญากูปรีแห่งนี้ เป็นจุดท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากที่สุดของจังหวัดศรีสะเกษ บริเวณนี้เป็นหน้าผาสูงชันที่มีความสวยงามตามธรรมชาติอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก แนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประชาชนสามารถผ่านเข้าออกได้ทั้ง 2 ประเทศ ทำให้มีชาวไทยและชาวกัมพูชาพากันมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดยาวเป็นจำนวนมาก ซึ่งมูลนิธิหลวงปู่สรวงได้ตกแต่งรอบบริเวณอย่างสวยงาม มีรูปปั้นพญากูปรีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินดินด้านหน้าของหน้าผา มีการนำเอาหินโบราณอายุกว่า 170 ล้านปีมาจัดเป็นสวนหินสวยงาม เป็นจุดชมวิวที่รองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ ส่งผลให้ประชาชนชาวไทยที่อยู่ตามหมู่บ้าน 2 ข้างถนนสายนี้ สามารถนำเอาสิ่งของมาจำหน่ายทั้งทำที่พักแรม ร้านอาหาร ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นและส่งผลดีต่อการค้าและการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษอย่างยั่งยืน จึงขอเชิญชวนพุธทศาสานิกชนทั้งชาวไทยและกัมพูชาเที่ยวชมไหว้พระวัดไพรพัฒนาชมผาพญากูปรีชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงวันหยุดยาวในระหว่างวันที่ 4-7 กันยายน 2563 นี้ ด้วย
ขอขอบคุณภาพข่าวจาก บุญทัน ธุศรีวรรณ