สระแก้ว นร.สาว ม.2 ไลฟ์สดขายสบู่-ครีม ถูกแฟนเพจเข้าไปบูลี่ ในโลกโซเชียล

จากกรณีที่เด็กนักเรียนหญิงมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 โรงเรียนสระแก้ว ไลฟ์สดลงสื่อโซเชียล เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวและเป็นทุนการศึกษา ถูกแฟนเพจเข้าไปบูลี่และต่อว่าเสียๆหายๆ จนทำให้เด็กนักเรียนคนนี้ ต้องขึ้นโรงพักเมืองสระแก้ว แจ้งความดำเนินคดี โดยหลังจากเพจ “เป็นข่าว โซเชียล” ได้โพสต์เรื่องราวของเด็กหญิงคนหนึ่ง ไลฟ์สดขายครีม และสบู่ประทินผิวขาว ก้อนละ 19 บาท โดยได้ถูกแฟนเพจที่เข้าไปชมการไลฟ์สดขายสินค้าของเด็กหญิงคนนี้  เข้าไปบูลี่รวมถึงต่อว่าต่างๆนาๆ

เช้านี้ผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อเด็กหญิงคนนี้ เพื่อขอทราบเรื่องราวและข้อเท็จจริงทั้งหมด เบื้องต้นพบว่า เด็กคนนี้ชื่อ เด็กหญิงเกณิกา ศิริ หรือ น้องเนย อายุ 14 ปี นักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 2 / 12 โรงเรียนสระแก้ว ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนระดับชั้นมัธยมศึกษา อยู่ในเขตเทศบาลเมืองสระแก้ว โดยทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจากน้องเนย ว่า ครอบครัวก็ไม่ได้ลำบากอะไร แต่ด้วยความที่พ่อแม่มีอาชีพค้าขายตามตลาดสดและตลาดนัด พบเห็นอาชีพค้าขายแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ จึงเริ่มขายของตามตลาดนัดมาตั้งแต่เรียนชั้น ป.3 จนกระทั่งมาถึงช่วง ป.6 จึงเริ่มหันมาขายของออนไลน์ เพื่อเป็นการหารายได้เสริมให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง รวมถึงเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวไม่ต้องไปรบกวนพ่อแม่

ส่วนกรณีที่น้องเนย ไลฟ์สดขายสินค้าประเภท สบู่ผิวขาวและครีมบำรุงผิวหลากหลายประเภท ภายในเพจๆหนึ่ง จนมีแฟนเพจบางคน เข้าไปบูลี่และต่อว่าเกี่ยวกับผิวแม่ค้าที่มีผิวดำแต่มาขายสินค้าเสริมความงามทำให้ผิวขาว เกี่ยวกับเรื่องนี้ น้องเนยยอมรับว่า ไม่ค่อยได้รู้สึกอะไรมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะมีคนให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนที่ผ่านมา มีแฟนเพจที่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ได้เข้าไปโพสต์ด่าเสียหายด้วยถ้อยคำรุนแรงและหยาบคาย จึงได้ปรึกษาพ่อกับแม่ ก่อนไปแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้ว

จากกรณีที่ถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง น้องเนยยอมรับว่า ครอบครัวและเพื่อนๆจะคอยให้กำลังใจตลอดเวลา เหมือนเป็นแรงผลักดันให้มีกำลังใจที่จะสู้ชีวิตต่อไป ก่อนหน้านี้ วันหนึ่งขายสบู่ก้อนละ 19 บาทได้เพียงไม่กี่ก้อน มีรายได้วันละประมาณ 2 ถึง 3 ร้อยบาท แต่หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา วันหนึ่งขายสบู่ได้เป็นร้อยๆก้อนเลยทีเดียว จึงอยากขอบคุณลูกค้าที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนน้องเนยด้วยดีตลอดมา ล่าสุด มีสินค้าหลายแบนด์ ได้ติดต่อให้น้องเนย ให้ช่วยรีวิวสินค้าให้ ซึ่งน้องเนยรู้สึกดีใจและขอบคุณมาก ที่มีผู้ใหญ่ใจดีคอยให้โอกาส

ขณะที่ครูที่ปรึกษาน้องเนยเอง ยอมรับว่า น้องเนยเป็นหัวหน้าห้อง มีความรับผิดชอบและมีความเป็นผู้นำสูง อีกทั้งยังเป็นที่รักของเพื่อนๆในห้องอีกด้วย ส่วนกรณีที่น้องเนยถูกบูลลี่และต่อว่าในขณะไลฟ์สดขายสินค้านั้น โดยส่วนตัว รู้สึกสงสารเด็กและให้กำลังน้องเนยตลอดมา เพราะเด็กคนนี้เติบโตมาในครอบครัวที่มีอาชีพค้าขาย เด็กจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมในยุคออนไลน์ เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวอีกทางหนึ่ง น้องเนย เป็นเด็กที่มีความตั้งใจดี คิดดีกับเพื่อนๆรอบตัว จึงไม่อยากให้พบเจอกับเรื่องแบบนี้…..

ขอขอบคุณภาพข่าวจาก ไตรรัตน์ มีวงษ์