อพปส.จัดประชุมพบปะสมาชิกในพื้นที่ จ.มุกดาหาร

เมื่อ 18 ก.ค.63 เวลา 10.00 น.กลุ่มองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ (อพปส.) นำโดย นายอัยย์ เพชรทอง เลขาธิการ อพปส. จัดประชุมพบปะสมาชิกกลุ่ม อพปส.ในจังหวัดมุกดาหาร เพื่อสอบถามความคิดเห็น ที่จะให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำจังหวัดมุกดาหาร ณ วัดอรุณรังษี เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ชุมชนอรุณรังสี ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยมีสมาชิกเข้าร่วม ประมาณ 100 คน
โดยมีแกนนำสำคัญที่เข้าร่วมดังนี้ คือ หม่อมหลวงกานตพงศ์ วรวุฒิ (หม่อมช้าง) , ศ.ดร.ดุษฎีวัฒน์ แก้วอินทร์ ปธ.ชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนา ,นายองค์การ ชัยบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล จังหวัดมุกดาหาร
นายเวชสุวรรณ วงศ์ศรีทา คณะทำงานพรรคก้าวไกล จังหวัดมุกดาหาร ,นายวิรัตน์ มะลิสุวรรณ ตัวแทนสมาพันธุ์ชาวพุทธ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ , นายประพันธุ์ บรรลุศิลป์ ปธ.อพปส.จ.มุกดาหาร
นายกริช เอี่ยมอุตมะ กรรมการ อปพส.จ.มุกดาหาร , นางศิริญญา เพชรรัตน์ ปธ.ชมรมพระพุทธศาสนา จ.มุกดาหาร , นายอัยย์ เพชรทอง กล่าวว่า กลุ่ม อพปส.จังหวัดมุกดาหาร เป็นจังหวัดแรกและจังหวัดเดียวของประเทศไทย ที่ต่อต้านการสร้างมัสยิดในพื้นที่ และกล้าที่จะแจ้งความผู้ว่าราชการจังหวัด ที่อนุญาตให้มีการสร้างมัสยิดในพื้นที่ โดยไม่ผ่านการทำประชาพิจาร จากนั้นได้อ่านแถลงการของกลุ่มในการจัดตั้งให้ จังหวัดมุกดาหาร มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำจังหวัด และให้สมาชิกกลุ่มร่วมลงนามในเอกสารบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการประกาศให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำจังหวัดมุกดาหาร

นายองค์การ ชัยบุตร กล่าวว่าที่ตนมาร่วมเสวนาในครั้งนี้ เป็นการมาร่วมเพื่อรับฟังปัญหา ซึ่งไม่ได้มาเพื่อการหาเสียงให้พรรคต้นสังกัดแต่อย่างใด เพราะตนก็นับถือศาสนาพุทธ และปฏิบัติตามหลักคำสอนของพุทธศาสนามาโดยตลอด จากนั้นจึงรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ พรบ.อิสลาม จำนวน 3 พรบ. เพื่อนำไปหารือในพรรคและจะหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป

หม่อมหลวงกานตพงศ์ วรวุฒิ กล่าวถึงสิ่งสำคัญที่ต้องมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำจังหวัด และประจำชาติ เพื่อรักษาความเป็นชาติของประเทศไทย จากนั้นได้ยกตัวอย่างความโหดร้ายของศาสนาอิสลาม โดยยกตัวอย่างการกระทำของผู้ก่อการร้ายในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกล่าวถึงปัญหาของ พรบ.อิสลาม ที่สร้างปัญหาให้คนในชาติ ว่าเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ สุดท้ายได้กล่าวว่ากลุ่ม อปพส.จะไม่ยอมยกแผ่นดินนี้ให้กับใคร ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งต่อไป ต้องเลือกคนที่อยู่ข้างศาสนาพุทธ และคนที่รักแผ่นดิน

ศ.ดร.ดุษฏีวัฒน์ แก้วอินทร์ กล่าวถึงการยื่นร่างกฎหมายเพื่อตั้งเรือนจำและศาล ที่ใช้สำหรับตัดสินคดีของพระสงฆ์โดยเฉพาะ จากนั้นได้กล่าวถึงความคืบหน้าในคดี ที่กลุ่มฯกล่าวแจ้งความเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ จ.มุกดาหาร ที่อนุญาตให้มีการสร้างมัสยิดในพื้นที่ จ.มุกดาหาร โดยกล่าวว่าตอนนี้ ปปช.ได้รับเรื่องแล้ว ซึ่งหาก ผวจ.มุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีความผิดจริง จะต้องถูกดำเนินคดีและติดคุก สุดท้ายได้กล่าวว่า ใครที่คิดจะต่อต้านในการทำให้ จ.มุกดาหาร มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำจังหวัด จะต้องเจอดี เพราะการก่อตั้งศาสนาพุทธไม่ได้ไปเข่นฆ่าใคร เหมือนศาสนาอิสลาม

นายวิรัตน์ ฯ กล่าวว่าที่ตนขึ้นมาพูด เพราะต้องการมาใช้สิทธิในถานะพลเมือง ในการปกป้องพุทธศาสนา จากนั้นได้กล่าวถึงประวัติว่าเคยรับราชการอยู่ฝ่ายความมั่นคงของทัพภาค 4 ดังนั้นตนจึงรู้ดีเกี่ยวกับการทำงานของ จนท.ฝ่ายความมั่นคง และรู้ทุกรื่องราวในศาสนาอิสลาม
กลุ่มมีมติจะขึ้นป้ายเพื่อประกาศว่า จ.มุกดาหาร มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำจังหวัด โดยมีกำหนดการขึ้นป้าย และจัดกิจกรรม ในวันที่ 15 ส.ค.63 แต่ยังไม่ทราบสถานที่ในการตั้งป้าย โดยกลุ่มประชุมเพื่อหามติ และจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร