แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานวางพวงมาลากล่าวสดุดีวีรชนอาสาสมัครทหารพราน ในวันสถาปนาหน่วยทหารพรานครบรอบปีที่ 42 หน้าอนุสาวรีย์วีรชนอาสาสมัครทหารพรานค่ายปักธงชัย กรมทหารพรานที่ 26 อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานวางพวงมาลากล่าวสดุดีวีรชนอาสาสมัครทหารพราน ในวันสถาปนาหน่วยทหารพรานครบรอบปีที่ 42
หน้าอนุสาวรีย์วีรชนอาสาสมัครทหารพรานค่ายปักธงชัย กรมทหารพรานที่ 26 อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

 

 

ที่ หน้าอนุสาวรีย์วีรชนอาสาสมัครทหารพรานค่ายปักธงชัย กรมทหารพรานที่ 26 อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พลโท ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานวางพวงมาลาและกล่าว สดุดีวีรชนอาสาสมัครทหารพราน เพื่อน้อมระลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของเหล่าอาสาสมัครทหารพราน ที่เสียสละชีวิตในการรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลัง สดุดีและระลึกถึงความเสียสละของเหล่าทหารพรานที่เสียชีวิต ในโอกาสนี้แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กรุณาเป็นประธานพิธีทางศาสนาเพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับวีรชนอาสาสมัครทหารพรานที่เสียชีวิตในการปกป้องผืนแผ่นดินอธิปไตยไทยในสมัยอดีตให้ลูกหลานจนถึงถึงปัจจุบัน สำหรับประวัติทหารพราน กองทัพบกได้จัดทำโครงการหน่วยรบนอกแบบ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจัดเป็นกำลังกึ่งทหารในลักษณะหน่วยอาสาพิเศษ ชื่อ โครงการ 513 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2521 ซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้วันที่ 18 กรกฎาคม ของทุกปีเป็นวันสถาปนาหน่วยทหารพรานจน ถึงปัจจุบัน โดยในพิธีฯ ในวันนี้มีข้าราชการอดีตผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารพรานและกำลังพลทั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงหน่วยขึ้นตรงของกองทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมพิธีฯ และให้การต้อนรับ ณ กรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย ตำบลภูหลวง อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

ประวัติหน่วยทหารพรานนับตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ได้เปิดฉากทำสงครามการเมืองโดยเปิดเผยตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๘ เป็นตันมา ภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ไต้ทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ และได้ขยายอิทธิพลไปทั่วประเทศ รัฐบาลได้ทุ่มเทกำลังทุกประเภท รวมทั้งกำลังทหารเข้าปราบปรามเป็นระยะเวลา 10 ปีเศษ ก็ไม่สามารถทำลายกองกำลังของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ลงได้ รัฐบาลได้วิเคราะห์แนวทางการปฏิบัติในขณะนั้นเป็นการปฏิบัติในลักษณะการทหารนำการเมืองเป็นการนำกำลังรบปราบปราม กำลังจรยุทธซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ประกอบกับในขณะนั้นภัยคุกคาม จากภายนอกประเทศทางด้านกัมพูชารอยต่อ ทภ.1กับ ทภ.2 มีสถานการณ์ไม่เป็นที่ไว้วางใจ ทบ. จึงถอนกำลังรบหลักในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ด้านกัมพูชากลับการฝึกฟื้นฟู และเตรียมป้องกันประเทศด้านกัมพูชา ทำให้ขาดแคลนกำลังในการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในด้านนี้ ทบ. จึงได้จัดทำโครงการหน่วยรบนอกแบบบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา โดยจัดเป็นกำลังกึ่งทหารในลักษณะ หน่วยอาสาสมัครพิเศษ ชื่อโครงการนี้ว่า โครงการ 513 คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติให้ดำเนินการ ตามโครงการ 513 เมื่อ 18 ก.ค.2521 ซึ่งถือเป็นวันสถาปนาหน่วยทหารพรานจนถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่ใน ศปก.ทบ, สวนรื่นฤดี

ประวัติอนุสาวรีย์วีรชนอาสาสมัครทหารพรานค่ายปักธงชัย ตามที่ ทบ. ได้จัดตั้งหน่วยอาสาสมัครทหารพราน เพื่อปฏิบัติภารกิจในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ ในรูปแบบจรยุทรปราบจรยุทธ ในพื้นที่ยากลำบาก ตลอดจนการปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนและแจ้งเตือนภัยตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาโดยมอบให้ชุดควบคุมและประสานงานโครงการ 513 ค่ายปักธงชัย ควบคุมบังคับบัญชา ตั้งแต่ 17 กันยายน 2521
เป็นต้นมา กำลังพลอาสาสมัครทหารพราน ได้เสียชีวิตเป็นชาติพลีไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 201 นาย บาดเจ็บพิการอีกเป็นจำนวนมาก อาสาสมัครทหารพรานเหล่านั้น เป็นผู้มีอุดมการณ์เสียสละ เพื่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริงสมควรที่จะได้รับการยกย่องสรรเสริญอย่างสูงสุดชุดควบคุมและประสานงานโครการ 513 ค่ายปักธงชัย

ซึ่งนำโดย พ.อ.วันชัย อัมพุนันทน์ ได้ตระหนักถึงความเสียสละอันสูงส่งของพวกเขาเหล่นั้น จึงได้จัดตั้งอนุสาวรีย์ ขึ้น ณ ค่ายปักธงชัย เพื่อบรรจุอัฐิของบรรดาเหล่าอาสาสมัครทหารพรานผู้กล้าหาญ และเป็นที่สิงสถิตดวงวิญญาณ ของอาสาสมัครทหารพรานผู้เสียสละชีพเป็นชาติพลี ณ ที่แห่งนี้อย่างนิรันดรตลอดจนจะได้เป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจของญาติพี่น้อง ครอบครัว ของผู้ล่วงลับไปแล้วว่า บุตร หลาน พ่อแม่ ของเขาเหล่านั้น กองทัพบกมิได้ทอดทิ้ง ได้ดำเนินการอย่างสมเกียรติ รวมทั้งเพื่อจะได้เคารพสักการะของบรรดาอาสาสมัครทหารพรานและประชาชนโดยทั่วไปอีกด้วยการจัดตั้งอนุสาวรีย์ ได้รับการสนับสนุนร่วมแรงร่วมจากบรรดา พ่อค้าและประชาชน ในเขต อ.ปักธงชัย และ จ.นครราชสีมา ที่มองเห็นความสำคัญ ในการเสียสละอันสูงส่งของบรรดา อาสาสมัครทหารพราน ที่ยอมเอาเลือด เอาเนื้อ และชีวิตเข้าแลกไว้ ในการจัดตั้งอนุสาวรีย์ครั้งนี้ จำนวนประมาณ 400,000 บาท เริ่มหล่ออนุสาวรีย์ เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2525 และเริ่ม ก่อสร้างเมื่อ 33 มีนาคม 2524 ซึ่งในการนี้ พล.อ.เชาวลิต ยงใจยุทธ ขณะดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ได้เป็นผู้อำนวยการในการจัดสร้างทุกขั้นตอนโดยตลอด การออกแบบการปั้น ใช้โลหะทองสัมฤทธิ์ทั้งสิ้น ดำเนินการโดย อาจารย์ริหาร โอภาส, ร.อ.สุปัญญา นุตะวานิช และจ.ส.อ.ชูชัย ชาติวงศ์ ซึ่งทั้ง 2 นาย หลังนี้ สังกัดกรมแพทย์ทหารบก อนุสาวรีย์วีรชนอาสาสมัครทหารพราน ค่ายปักธงชัย แห่งนี้ได้กระทำพิธีเป็นทางการเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2525 อันเป็นวันคล้ายวันสถาปนาค่ายปักธงชัย โดย พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ผู้บัญชาการทหารบกได้กรุณามาเป็นประธานในพิธีนอกจากนี้ยังมีการปฏิบัติการพิศษ เยี่ยงแบบโบราณเพื่อเป็นการตัดไม้ชมนาม เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนที่จะนำกำลังอาสมัครหารพราน ออกปฏิบัติการในพื้นที่ทุกครั้ง ได้กระทำพิธียิงสลุด เช่นสรวงดวงวิญญาณวีระบุรุษ ตามกำลังวันอีกโสตถิหนึ่งด้วย ปัจจุบันอนุสาวรีย์แห่งนี้ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของอาสาสมัครทหารพราน ค่ายปักธงชัยทุกคน

 

ทั้งที่อยู่ปัจจุบันและผู้ที่จบภารกิจไปแล้ว ตลอดจนญาติพี่น้องบุตหลานของผู้เสียชีวิตอีกด้วยโดยได้นำอัฐิมาบรจุใต้ฐานอนุสาวรีย์แห่งนี้ และเมื่อถึงวันสำคัญต่าง ๆ ก็จะเดินทางมาทำพิธีทางศาสนา อุทิศส่วนกุศลให้เป็นประจำ และสิ่งที่น่าภาคภูมิใจพิศษคือประชาชน อ.ปักธงชัย ได้ถือว่าอนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นสิ่งควรสักการะประจำ อ.ปักธงชัย อีกแห่งหนึ่งด้วย จึงนับว่าการจัดสร้างอนุสาวรีย์วีรชนอาสาสมัครทหารพรานค่ายปักธงชัยได้ผล สมความมุ่งหมายโดยทุกประการ

 

ภาพ/ข่าว : ไทบ้าน นิวส์ (พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร)