ตร.น้ำนราฯจับเรือเวียดนามประมงเถื่อน พร้อมลูกเรือ 6 คน ก่อนคัดกรองโควิดเข้ม
ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ที่ได้มีการสั่งการให้ชุดปฏิบัติการณ์ออกปฏิบัติภารกิจในการปราบปรามการกระทำความผิดทางทะเลอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ นำโดย พ.ต.อ.ศราวุฒิ ลิจฉวีราช ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ
พ.ต.อ.นัฐพงศ์ ตาแก้ว รองผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ภราดร สวัสดี สว.สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.ต.ธรรมปพน ช่างฉ่ำ สว.สถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกทำการสืบสวนหาข่าว และสั่งการให้เรือตรวจการณ์ในสังกัดกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ออกทำการลาดตระเวน จับกุม และปราบปรามการกระทำความผิดทางทะเล โดยให้เรือตรวจการณ์หมายเลข 808 และเรือตรวจการณ์หมายเลข 529 ออกทำการลาดตระเวนในพื้นที่รัศมีความรับผิดชอบ จนกระทั่งในเวลา 04.30 น.ของวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 บริเวณแลตติจูด 06 องศา 47 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 102 องศา 14 ลิปดาตะวันออก ซึ่งห่างจากปากร่องน้ำนราธิวาสประมาณ 30 ไมล์ทะเล จึงได้ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนามกำลังเข้ามาลักลอบทำการประมงในเขตการทำประมงน่านน้ำของไทย โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณก่อนขึ้นแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น จนสามารถจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามได้จำนวน 1 ลำ ตรวจสอบพบชื่อเรือ บี.ที.97184 ที.เอส พร้อมลูกเรือเวียดนามจำนวน 6 คน นำตัวทั้งหมดมายังกองบังคับการตำรวจน้ำนราธิวาส โดยเจ้าหน้าที่จาก รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ได้เข้ามาเพื่อตรวจคัดกรองเพิ่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นทั้ง 6 รายไม่พบว่ามีไข้แต่อย่างใด ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้พื้นที่อ่าวไทยภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่ จ.สงขลา จนถึงชายแดนไทย-มาเลเซีย จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ มีการลักลอบเข้ามาทำการประมงของเรือประมงสัญชาติเวียดนามเป็นจำนวนมาก และบ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่สามารถทำการจับกุมได้ ซึ่งปัญหาการลักลอบเข้ามาทำการประมงของเรือสัญชาติอื่นนั้น เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรและธรรมชาติของประเทศไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ความรับผิดชอบที่กองบังคับการตำรวจน้ำตระหนักและต้องมีการปราบปรามอย่างจริงจัง เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศไทย
นราธิวาส/ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ