สส.ประจวบฯดักคอพ่อค้า – โรงงานกะทิ อย่าฉวยโอกาสต้านลิงกังกดราคาผลผลิตมะพร้าว
วันที่ 8 กรกฎาคม นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการ ( กมธ.) ศึกษาและแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้จะเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่กระทรวงพาณิชย์ โดยเสนอแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดแก้ไขปัญหากรณี ซุปเปอร์มาเก็ตหลายแห่งในประเทศอังกฤษประกาศจะเลิกจำหน่ายผลิตภัณฑ์มะพร้าวบางรายการจากไทย เนื่องจากองค์กรพิทักษ์สัตว์ป่าในต่างประเทศระบุว่าไทยมีการใช้ลิงกังเก็บมะพร้าวเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ขณะที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์พร้อมสาธิตการใช้ลิงกังเก็บมะพร้าวให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความเข้าใจในวิถีชีวิตดั้งเดิมในท้องถิ่น นอกจากนั้นจะขอหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อป้องกันพ่อค้าคนกลางและผู้ประกอบโรงงานบางรายฉวยโอกาสกดราคาผลผลิตจากสถานการณ์ดังกล่าว
” ขณะนี้ราคาผลผลิตมะพร้าวในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ปลูกมากที่สุดในประเทศมีราคาเฉลี่ยผลละ 16-17 บาท คุ้มกับต้นทุนการผลิตและทำให้ชาวสวนมีกำไร เนื่องจากที่ผ่านมาได้เร่งรัดแก้ปัญหาลักลอบการนำเข้ามะพะร้าวเถื่อน ไม่อนุญาตให้นำเข้าตามกรอบเสรีอาเซียนภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์ แต่อนุญาตให้นำเข้าตามกรอบ WTO โดยผู้นำเข้าต้องจ่ายภาษี 54 % และสามารถเรียกคืนภาษีได้หากนำผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวส่งออกไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ยอมรับว่าน้ำกะทิที่แปรรูปในประเทศไทยผลิตเพื่อส่งออกส่วนหนึ่งนำวัตถุดิบมาจากประเทศเวียดนามและอินโนดีเชีย “ นายประมวลกล่าว
จ่าเอกเสรสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า การอ้างลิงกังแบนน้ำกะทิไทยของประเทศอังกฤษเข้าข่ายกีดกันทางการค้า ไม่ต่างจากในอดีตที่ประเทศในสหภาพยุโรปแบนสินค้าเกษตรประเภทอื่นโดยอ้างเหตุผลเพื่อกดราคา สำหรับการแบนลิงกังเก็บมะพร้าวถือว่าผิดเป้าหมาย เนื่องจากบางปีผลผลิตมะพร้าวในไทยมีไม่เพียงพอ ผู้ประกอบการต้องนำเข้ามะพร้าวคุณภาพต่ำจากประเทศเพื่อนบ้านมาผลิตน้ำกะทิส่งออก แต่การส่งออกไปทุกประเทศได้ย้อมแมวโดยตีตราเมดอินไทยแลนด์ข้างกล่อง ซึ่งองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศคู่ค้าควรสนใจปัญหานี้ มากกว่าการใช้ลิงกังเก็บมะพร้าวที่มีมานานเป็นร้อยปี
ขอขอบคุณภาพข่าวจาก พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์