หญิงแกร่งสู้ชีวิต ผู้ที่ไม่เคยมีรอยยิ้ม วอนสังคมช่วยเหลือครอบครัวแสนรันทด  ไร้ที่อยู่อาศัย  ซ้ำโรคร้ายหลายโรคมาซ้ำเติม​ แม้แต่เงินไปหาหมอก็ไม่มี ต้องอยู่อย่างแสนทรมาน​พร้อมกับลูกอีกสามคน​

หญิงแกร่งสู้ชีวิต ผู้ที่ไม่เคยมีรอยยิ้ม วอนสังคมช่วยเหลือครอบครัวแสนรันทด  ไร้ที่อยู่อาศัย

ซ้ำโรคร้ายหลายโรคมาซ้ำเติม​ แม้แต่เงินไปหาหมอก็ไม่มี ต้องอยู่อย่างแสนทรมาน​พร้อมกับลูกอีกสามคน​

 

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่​บ้านเลขที่​ 11​ หมู่6​ บ้านโนนคร้อ​ ต.บ้านขาม​ อ.จัตุรัส​ จ.ชัยภูมิ​ ได้พบ​ นาวสาวจันทร์เพ็ญ​ สิทธิ์จันทร์​ อายุ​ 43​ปี​ นั่งอยู่กับลูกสาว​ ตัวเล็กๆที่เพลิงไม้เก่าหน้าบ้าน​ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม​ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านเช่า​ เช่าอยู่มาปีกว่าแล้ว แต่ก่อนนางสาว​จันทร์เพ็ญ​ กับสามีที่พิการกับลูก ได้อาศัยอยู่บ้านพ่อกับแม่​ แต่มาไม่นาน​พ่อกับแม่ก็เสียชีวิต​ แล้วก็เกิดปัญหาภายในครอบครัว​ โดนญาติพี่น้อง​ ไล่ครอบครัวของตนออกจากบ้าน​ เพราะเป็นภาระให้แก่ญาติพี่น้อง​ เพราะว่า​ ตนเองก็ป่วย​ ทำงานไม่ได้​ และสามีก็พิการ​ ทำงานไม่ได้เหมือนกัน​ จึงตัดสินใจนำสามีและลูกออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว​ มาเช่าบ้านอยู่​ ที่ชายทุ่งนา​ เดือนละ800​ บาท​ อยู่มาไม่นาน​ สามีก็ได้ล้มหัวฟาดพื้น​ เส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต​ ได้ประมาณ1อาทิตย์แล้ว​

นางสาวจันทร์เพ็ญเล่าต่อไปว่า​ สภาพร่างกายของตนเองเดี๋ยวนี้​ มีแต่โรคมาลุมเล้าหลายโรค​ มีโรคไตวาย​ เบาหวาน​ ความดัน​ ไขมันอุดตัน​ ร่างกายเริ่มทรุดลงทุกวัน​ ลำบากแต่เวลาจะไปหาหมอก็ไม่มีค่ารถ​ ค่ายา​ หมอที่โรงพยาบาลชัยภูมิ​ จะนัดไปฟอกเลือด​ อาทิตย์ละ2ครั้ง​ เงินค่ารถไปหาหมอ​ มีเพื่อนบ้านและผู้ใหญ่บ้าน​ หมู่6​ บ้านโนนคร้อ​ ช่วยกันบริจากเรี่ยไร​ เพื่อได้เงินไปหาหมอแต่ละครั้ง​ นางสาวจันทร์เพ็ญ​ มีลูกสาวสองคน​ คนที่1ชื่อ​ นางสาว​ จุฑารัตน์​ สิทธิ์​จันทร์​ อายุ​18ปี​ มีอาชีพ​ รับจ้าง​ มีลูกน้อย​ อายุ8เดือน​  และลูกกับสามีที่เลิกร้างกันไปแล้ว​ คนที่2​ ​ อายุ​ 13​ปี​ เรียนหนังสืออยู่ชั้นม​ ป.6​ โรงเรียนโนนคร้อวิทยา​ ลูกสาวคนโตมีอาชีพ​ รับจ้างทั่วไป​ บางวันมีงานก็ได้ไป​ บางวันไม่มีงานก็ไม่ได้ไป​ จะได้ค่าแรง​ วันละ200บาทต่อวัน​ ลูกสาวคนโตจะหาเลี้ยงแม่และน้อง​ พร้อมกับลูกของตนเอง​ เพียงคนเดียว​ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างมันมากกว่าเงินที่หามาได้แต่ละวัน​ ไหนน้องจะไปโรงเรียน​ และจะต้องซื้อนมให้ลูกกินอีก​ ซื้อกับข้าวมาให้แม่กับน้อง​ ชักหน้าไม่ถึงหลัง​ บางวันหาได้ก็ได้กินอิ่ม​ ถ้าวันไหนหาไม่ได้ครอบครัวก็ต้องอด​

นางสาวจันทร์เพ็ญ​ พูดไปทั้งน้ำตา​ แต่ก่อนสามียังไม่ตาย​ ก็พอยังได้เงินคนพิการ​ 800บาท​ มาจ่ายค่าเช่าบ้านพอดี​ แต่พอสามีเสียชีวิต​ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่าบ้าน​ ลำพังลูกสาวคนโต​ คงจะหาเงินไม่ทัน​ ไหนจะค่านมลูก​ อีกทั้งน้องไปโรงเรียน​ ค่าใช้จ่ายจิปาถะ​ ลำบากแต่เวลาจะไปโรงพยาบาล​ จะต้องหาค่ารถค่ายา​ แถมยังลูกสาวคนเล็ก​ ที่เรียนอยู ป.6​ ต้องขาดโรงเรียน​พาแม่ไปหาหมอทุกครั้ง​ แม่ก็ไม่อยากให้ลูกขาดโรงเรียน​ กลัวจะเรียนไม่ทันเพื่อน​ เพราะหมอนัดอาทิตย์ละ2ครั้ง​ ถ้าลูกสาวคนโตพาไปหาหมอ​ ก็จะไม่มีเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน​ จะต้องไปทำงานรับจ้าง​เขา​ เพื่อนำเงินมาซื้ออาหาร​ ให้แม่และน้องได้กิน​ ในเวลานี้ได้มี​ นางสาวศิริพร​ กลิ่นศรีสุข​ อายุ33ปี​ บ้านเลขที่​154​หมู่6​ บ้านโนนคร้อ​ ต.บ้านขาม​ อ.จัตุรัส​ จ.ชัยภูมิ​ เป็นผู้ใหญ่บ้าน​ มาคอยดูแลและข่วยเหลืออยู่บ้าง​ ตนอยากขอวิงวอน​ หน่วยงานภาครัฐ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ​ ให้เข้ามาดูแลตนและครอบครัวบ้าง​ และผู้ที่มีจิตใจเมตตา​ จะช่วยเหลือครอบครัวของตน​ ให้พ้นจากครวามทุกทรมานแสนรันทดนี้ด้วย​

 

คำหอม ชุมชน ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ