ตม.สระแก้ว สืบจังหวัดสระแก้ว สนธิกำลังตำรวจวังน้ำเย็น สกัดจับแรงงานเขมรเถื่อน ทะลักเข้าไทย ทำงาน สมุทรปราการและปริมณฑลชั้นใน กทม.
จากการสืบทราบของ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.สระแก้ว ว่ามีขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมายทางด้านบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จึงได้ประสานการปฏิบัติการปราบปรามกับ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พ.ต.อ.นาวิน ธีรวิทย์ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น พ.อ.รณรงค์ เส็งมี ผบ.กรม ทหาพรานที่ 13 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สาโรจน์ ติรกิจพาณิชย์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว พ.ต.ท.ญาณกวี ประวัติภภักดี สว.ตม.สระแก้ว ได้สนธิกำลังสกัดจับแรงงานชาวกัมพูชาที่ลักลอบเดินทางเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.ของวันนี้ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.(สส) ภ.จว.สระแก้วพ.ต.ท.สาโรจน์ ติรกิจพาณิชย์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว พ.ต.ท.ญาณกวี ประวัติภภักดี สว.ตม.สระแก้ว จัดกำลัง ตำรวจ ทหารพราน ตม.สระแก้ว ปกครองอำเภอวังน้ำเย็น ออกลาดตระเวนตามเส้นทางถนนสาย317 เส้นทางจันทบุรี-สระแก้วได้ตรวจพบรถต้องสงสัย ตรงสายรายงาน จึงได้ให้สัญญาณจอดรถ เพื่อขอตรวจค้นเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีเทา หมายเลขทะเบียน 5ฌ-5735 กรุงเทพฯ มีนายสงกรานต์ ใสโพธิ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 6 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เป็นผู้ขับขี่ และจากการตรวจค้นพบแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 15 คน จึงได้แจ้งในข้อหาซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆเพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยมีนายมิน รี ชาวกัมพูชาเป็นนายหน้านำแรงงานเข้ามา ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับ รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น โชลูน่า สีขาว ทะเบียน ขง- 62 14 ระยอง วิ่งเข้ามาในปั้มน้ำมัน ปตท.วังน้ำเย็น พบนายนพดล แสนสุข อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/18 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นคนขับและได้พบแรงงานชาวกัมพูชานั่งมาในรถจำนวน 5 คน จึงได้แจ้งข้อหานำพาแรงงานเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ถูกต้อง เนื่องจากลักลอบเข้าช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน พร้อมควบคุมแรงงานทั้งหมดมาตรวจสอบที่ สภ.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เพื่อทำประวัติไว้ ก่อนส่งตัวแรงงานทั้งหมดให้ พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.สระแก้ว กล่าวว่า แรงงานชาวกัมพูชาที่ ตม.สระแก้วทลายเครือข่ายแก๊งขนแรงงานผิกกฎหมาย ซึ่งมุ่งหน้าไปจังหวัดสมุทรปราการเป็นเครือข่ายเจ๊ต้อยจะเข้ามาที่ปั้ม ปตท.วังน้ำเย็น มาจากช่องทางธรรมชาติมีรถตรวจการว่า ด้านหน้าจะมีด่านเจ้าหน้าที่หรือไม่ถ้าก็จะแจ้งให้กลุ่มขนแรงานผิดกฎหมายทราบเพื่อหาทางหลบเจ้าหน้าที่ รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอน เงิน ทะเบียน กฌ-1747 กทม.โดยมีนายวัลลภ รัตนสิมวงษ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/156 ซอยรามคำแหง 52/2 (สิมเศรษฐี) อ.เขตบางกะปิ จ.กทม.เป็นคนเคลียเส้นทาง
ซึ่งถ้าแรงงานกัมพูชาจะเข้ามาทำงานในประเทศไทย ขอให้แรงงานชาวกัมพูชา ปฏิบัติให้ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าหลบหนีเข้ามา หรือขอมีบัตรแรงงานทำงานถูกต้องในบริษัทของไทย แล้วจะเดินทางเข้ามาได้ แรงงานชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับมาทำ จะต้องเดินทางผ่านเข้ามาทางด่านปอยเปต และยื่นหนังสื่อแจ้งความจำนงค์ กลับเข้าไปทำงานในประเทศไทยต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ตม.คลองลึก เท่านั้น จึงจะสามารถเดินทางด้วยรถยนต์โดยสารเข้าไปได้ ไม่เช่นนั้นจะต้องเสียเวลาเมื่อเจ้าหน้าที่ตามด่านต่างๆ ตรวจพบ เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องจับตัวส่งกลับเข้าไป และจะต้องเดินทางเข้ามาใหม่เสียเงินทั้งเสียเวลาดังกล่าว
ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า ในระยะนี้ช่วงโควิด-19 ชายแดนไทยกัมพูชาปิดด่าน ทำให้แรงงานกัมพูชามีแนวโน้มการทะลักเข้ามา ของแรงงานผิดกฎหมายเพื่อเดินทางเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีรายงานข่าวในทางลับว่า ในแต่ละคืนจะมีแรงงานเถื่อนทะลักเข้าไปทำงานเป็นจำนวนมากแต่จะใช้วิธีเข้าไปอย่างไรนั้นไม่สามารถคาดเดาได้ แต่คาดว่าส่วนใหญ่จะจ้างเหมารถกันไป โดยเสียค่าจ้างคนละไม่น้อยกว่า 2,000-3,000 บาท/คน เพราะจากการสอบถามแรงงานเถื่อนที่ถูกจับได้บอกว่า การหลบหนีเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น พวกตนไม่มีเงินจึงต้องพึ่งพาขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อน เนื่องจากนายหน้าเหล่านี้จะออกค่ารถให้ก่อน จำนวนดังกล่าวแล้วจะไปหักกับเงินเดือนของพวกตนกับบริษัทที่นายจ้างส่งเข้าไปทำงาน โดยพวกตนได้รับค่าจ้างวันละ 220-300 กว่าบาท ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวยังคงเป็นปัญหาหนักที่หน่วยงานความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจต้องเร่งปราบปราม เพราะแรงงานเหล่านี้เมื่อลักลอบเข้ามาอยู่ในเมืองไทยแล้ว มักมีปัญหาอาชญากรรมตามมา หากเกิดคดีขึ้นคนเหล่านี้จะไม่มีประวัติ ทำให้ยากต่อการติดตามจับกุมมาดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข่าวให้เห็นบ่อยครั้ง ทั้งเรื่อง ลัก วิ่ง ชิง ปล้น หรือแม้แต่ฆ่า และข่มขืน ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคง และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทยเป็นอย่างมาก