จ.ศรีสะเกษ แถลงข่าวการจัดงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ปี2563

ชูแคมเปญ Amazing ไทยเท่และโครงการ Check in ถิ่นเมืองช้างและดินแดนภูเขาไฟ สุรินทร์ – ศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 เวลา 15.00 น ที่สวนทุเรียนไร่ธิทรรศยา ม.10 ตำบลจานใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ , นายสว่าง กาลพัฒน์ เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ , นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ และ นายสฤษฏ์ นาควารินทร์ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ปี2563 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน ถึงวันที่ 5 กรกฎาคม 2563 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ โดยมีส่วนราชการ ข้าราชการ เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนภูเขาไฟอำเภอกันทรลักษ์ และสื่อมวลชนจังหวัดศรีสะเกษ เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวการจัดงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ปี2563 เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การจัดงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษปี2563ให้เป็นรู้จักทั่วไป ส่งเสริมการท่องเที่ยวชมซื้อและชิมทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษที่สวนของเกษตรกร และการจำหน่ายทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงในราคาหน้าสวนทุเรียน เพื่อนำทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ สู่สายตาชาวโลก” เพื่อเชื่อมโยงตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มผลไม้ สู่การพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ ต่อไป

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ เป็นทุเรียนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากทุเรียนของจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นทุเรียนที่มีคุณลักษณะพิเศษ เนื้อนุ่ม กรอบนอก นุ่มใน ละมุนลิ้น กลิ่นไม่ฉุนมาก อร่อยทุกลูก และได้มาตรฐานกำหนดเป็นสินค้า GI สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ทุเรียนภูเขาไฟ มี 3 สายพันธุ์ คือ หมอนทอง ชะนี และก้านยาว นอกจากนี้ พื้นที่ดินแดนภูเขาไฟศรีสะเกษ ยังเหมาะแก่การปลูกผลไม้นานาชนิด เพราะดินภูเขาไฟจะมีแร่ธาตุสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชผล อาทิ ทุเรียนภูเขาไฟ ลองกอง เงาะ มังคุด ลำไย มะยมชิด สะตอ เป็นต้น

นายสว่าง กาลพัฒน์ เกษตรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่ปลูกทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ 3 อำเภอ คือ อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ และอำเภอศรีรัตนะ มีพื้นที่ปลูกประมาณ 8,552 ไร่ ให้ผลผลิตแล้ว ประมาณ 3,095 ไร่ คาดว่าในปีนี้จะมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาด ประมาณ 4,203 ตัน โดยจะมีผลผลิตมากที่สุดในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2563 นี้ สามารถราคาจำหน่ายทั่วไปประมาณ กิโลกรัม ละ 150-180 บาท

นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ กล่าวว่า เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์ COVID19 ปีนี้อาจจะไปกินที่สวนไม่ได้ ก็ไม่ต้องกังวล และเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของทุกคน ยังคงต้องอยู่บ้านกันต่อไป ททท.สำนักงานสุรินทร์ ได้มีมาตรการ ซ่อม สร้าง ฟื้นฟู ช่วยเหลือ ผู้ประกอบการสวนผลไม้ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ โดยวิธีการสั่งซื้อทุเรียนภูเขาไฟเดลิเวอรี่ สดจากสวน ส่งตรงถึงหน้าบ้านผ่านทางออนไลน์ ที่มีทั้งเจ้าของสวนส่งเอง และจากสำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ มีทั้งแบบ ปลีกและส่ง โดยมีบริการจัดส่งทาง Kerry Express Thailand หรือผ่านทางบริษัทไปรษณีย์ไทย ซึ่งทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ สามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารที่หลากหลาย (More Gastronomy) อาทิ ทุเรียนกรอบ เฟรนฟรายน์ทุเรียนภูเขาไฟ สมูตตี้ทุเรียนภูเขาไฟ เค้กทุเรียนภูเขาไฟ บัวลอยทุเรียนภูเขาไฟ เป็นต้น

ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ทุเรียนภูเขาไฟถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น (Amazing Thai Taste) ของจังหวัดศรีสะเกษ จึงขอเชิญชวนมาเที่ยวแบบเท่ๆ สัมผัสเสน่ห์เมืองรองอีสานใต้ จังหวัดศรีสะเกษ เมืองรองที่ไม่เป็นรองใคร และได้ชูแคมเปญ Amazing ไทยเท่ และโครงการ Check in ถิ่นเมืองช้างและดินแดนภูเขาไฟ สุรินทร์ – ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแผนงานโครงการทางด้านการตลาด ของททท.สำนักงานสุรินทร์ ในปี 2563 นี้ อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์และเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ สั่งซื้อทุเรียนภูเขาไฟในช่วงงานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ

ข่าว/ภาพ …. บุญทัน ธุศรีวรรณ