“ศรีสะเกษ”ชาวเน็ตรุมจวกยับ! ศาลาพักผู้โดยสารสร้างใหม่สวยงามไร้ประโยชน์
ชาวบ้านโวยสุดทนกันแดดกันฝนไม่ได้ แห่บริจาคเงินสร้างกันเอง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ “เอกชัย พงษ์วิเศษ” ได้โพสต์รูปภาพพร้อมระบุข้อความลงในกลุ่มเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ “SisaketToday” ว่า “ศาลาริมทาง ศรีสะเกษ-วังหิน เพื่อนเฟซคิดเช่นไร” ซึ่งเป็นภาพถ่ายที่เป็นศาลาริมทางสร้างใหม่พร้อมถนน 4 เลน สายศรีสะเกษ-ขุขันธ์ ส่งผลทำให้ชาวเน็ตแห่เข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารย์กันไปถึงต่างๆนานาถึงความคุ้มค่าและประโยชน์ใช้สอยกันเป็นจำนวนมาก อาทิ ดูดีแต่ใช้ประโยชน์หลบแดดหลบฝนไม่ได้ พยายามมองหาประโยชน์แต่ไม่เจอ ไม่เหมาะกับภูมิอากาศประเทศไทย สวยงามแต่สู้ศาลาริมทางแบบเดิมไม่ได้ เนื่องจากสามารถหลบแดดหลบฝนได้ เปลืองงบ ต้องถามว่าทำเพื่ออะไร เป็นต้น
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนนสายดังกล่าว พบศาลาริมทางหลายจุดที่ก่อสร้างแทนศาลาหลังเดิม พร้อมกับการสร้างถนน 4 เลน มีลักษณะคล้ายป้ายรถเมย์ มีขนาดความยาวประมาณ 4 เมตร กว้างประมาณ 1.5 เมตร เท่ากันกับหลังคา ซึ่งเล็กกว่าศาลาหลังเดิมมาก วัสดุส่วนใหญ่เป็นเหล็กและแสตนเลส หลังคาสูงโปร่ง ที่นั่งพักเป็นแผ่นเหล็กยาวประมาณ 3 เมตร ไม่สามารถกันฝนและกันแดดช่วงเช้าและบ่ายได้ ซึ่งแผ่นเหล็กที่นั่งพักผู้โดยสารเมื่อถูกแดดส่องเป็นเวลานานจะร้อนจัดไม่สามารถนั่งพักนอนพักได้ ชาวบ้านในพื้นที่ที่จำเป็นต้องใช้พักรอรถโดยสาร จึงพากันบริจาคเงินร่วมกันสร้างศาลาพักผู้โดยสารขึ้นมาเอง เพื่อใช้รอรถหลบแดดหลบฝน รวมถึงผู้ใช้รถที่สัญจรผ่านไปมาได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันขึ้นมาเอง
นายอำนาจ พันนา อายุ 60 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ที่พักผู้โดยสารที่สร้างใหม่ตนมีความคิดเห็นว่าใช้ประโยชน์ไม่ค่อยได้ ฝนตกก็อาศัยหลบฝนไม่ได้เลย เวลามีแดดก็อาศัยไม่ได้ จะใช้หลบแดดได้เวลาเดียวคือเวลาเที่ยง เนื่องจากพระอาทิตย์ตั้งตรงศีรษะ พี่น้องประชาชน นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งผู้ขับขี่รถผ่านไปผ่านมา จะจอดพักผ่อนหลบแดดหลบฝนก็อาศัยไม่ได้ ซึ่งตนคิดว่าศาลาพักผู้โดยสารแบบเดิมดีกว่า เพราะว่ามีขนาดใหญ่หลบแดดหลบฝนได้จริง และพักได้หลายคน ถึงแม้จะไม่สวยงามเท่าหลังใหม่ แต่ก็ดีกว่าใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
ต่อมาชาวบ้านในพื้นที่ที่ต้องใช้เป็นจุดนั่งพักรอรถโดยสาร จึงได้ร่วมกันบริจาคเงินทั้งหมู่บ้านระดมทุนในการก่อสร้างศาลาพักผู้โดยสารขึ้นมาเอง มูลค่า 19,000 บาท เพื่อเป็นจุดพักรอรถและจุดพักสำหรับผู้สัญจรผ่านไปมาได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งสามารถหลบแดดหลบฝนได้จริง ตนอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ปรับปรุงแก้ไขศาลาพักผู้โดยสารให้เข้ากับสภาพพื้นที่และใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ใช่แค่สวยงาม.
ขอขอบคุณภาพข่าวจาก บุญทัน ธุศรีวรรณ