“สุกรรณ์” นำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด ส่งผู้แทนร้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว ยืดระยะเวลาบังคับการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายนออกไป โดยมีจำเลยคือ กระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการวัตถุอันตราย และกรมวิชาการเกษตร

“สุกรรณ์” นำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด ส่งผู้แทนร้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว

ยืดระยะเวลาบังคับการแบนพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายนออกไป

โดยมีจำเลยคือ กระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คณะกรรมการวัตถุอันตราย และกรมวิชาการเกษตร

 

 

นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย  กล่าวว่า ในวันนี้ (27 พฤษภาคม) ได้ร่วมกับผู้แทนเกษตรกรอีก 10 คนเป็นโจทย์ยื่นร้องต่อศาลปกครองกลางฟ้องกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นจำเลยที่ 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นจำเลยที่ 2 คณะกรรมการวัตถุอันตรายเป็นจำเลยที่ 3 และกรมวิชาการเกษตรเป็นจำเลยที่ 4 ซึ่งเกี่ยงข้องกับการแบนพาราควอตและคลอร์ไพรฟอส โดยออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2563 ยกระดับสารเคมีทางการเกษตรได้แก่ พาราควอต พาราควอตไดคลอไรด์ คลอร์ไพริฟอส และคลอร์ไพริฟอส-เมทิล จากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นชนิดที่ 4 ซึ่งมีผลให้ห้ามผลิต นำเข้า นำผ่าน ส่งออก และครอบครอง และให้กรมวิชาการเกษตรเรียกคืนในระยะเวลาที่กำหนด โดยประกาศกระทรวงอตุสาหกรรมนี้จะผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563

นายสุกรรณ์ กล่าวว่า จะขอศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว ยืดระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายนี้ไปก่อนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเกษตรกรซึ่งจะขาดสิ่งที่ต้องใข้ในการประกอบอาชีพ อีกทั้งยังไม่มีสารที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมมาทดแทน โดยเฉพาะพาราควอตซึ่งเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืช โดยหากใช้สารเคมีชนิดอื่นจะต้องใช้ปริมาณมากทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ขณะที่ภาครัฐยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบใดๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ปากคำต่อศาล จากนั้นศาลจะวินิจฉัยว่า จะรับคำร้อง รวมทั้งจะออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวการแบน 2 สารนี้หรือไม่