รวบลูกศิษย์วัด หลอกข่มขืนเด็กวัย 12 ขวบ สารภาพอ้างอารมณ์ชั่ววูบ

วันที่ 6 พฤษภาคม 2563 เวลาประมาณ 14.00 น. นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร , พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร , พ.ต.อ.สิทธิพงศ์ สังข์แสง ผกก.สภ.โคกขาม และนางสาวกฤษฎี ปิ่นนิล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร , นางสาวกนิษฐา บุญยัง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสาคร , นายสุทธิพงษ์ กลัดเจริญ ปลัดอำเภอเมืองสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ลงพื้นที่ สภ.โคกขาม สืบเนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีคนล่อลวงเด็กหญิงเข้าไปก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราภายในบริเวณวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงมาร่วมสอบปากคำ้บื้องต้นกับผู้ต้องหา พ่อเด็ก แม่เด็ก และผู้เกี่ยวข้อง ส่วนตัวเด็กหญิงเอ นามสมมุติ อายุ 12 ปี ผู้เสียหายที่ถูกข่มขืนกระทำชำเรา และทั้งนี้จะต้องมีการตั้งทีมสหวิชาชีพมาดำเนินการสอบปากคำ เนื่องจากเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 15 ปี โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเคยถูกจับกุมตัวมาแล้วครั้งหนึ่งในข้อหาเสพกัญชา แล้วก็มาครั้งนี้ตนยอมรับว่าสำเร็จความใคร่กับเด็กจริง แต่ทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งตนสำนึกผิดแล้ว

โดยทาง พ.ต.อ.สิทธิพงศ์ สังข์แสง ผกก.สภ.โคกขาม ก็กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นเด็กให้การมาตลอดว่าโดนทำร้ายร่างกายมาอย่างน้อย 2 – 3 ปี โดยถูกลงไม้ลงมือตบตีส่วนความรุนแรงจะมากน้อยแค่ไหนนั้น อยู่ระหว่างการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ครั้งนี้มีหลักฐานยืนยันว่า เด็กถูกกระทำชำเราแน่นอน และจากการที่นายอำเภอรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบถามพ่อของเด็กก็ทราบว่า ผู้ต้องหานั้นเคยเป็นเพื่อนสนิทของพ่อเด็กเมื่อตอนวัยรุ่น แต่มาระยะหลังนี้ไม่ค่อยได้พบเจอกันเพราะพ่อเด็กไปทำงานแล้ว ดังนั้นจึงจะต้องทำการสืบสวนสอบสวนให้ครบกระบวนการว่า เด็กถูกกระทำฯในลักษณะนี้มาตั้งแต่เมื่อไรและกี่ครั้งแล้ว เพราะจะมีผลต่อการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา อีกทั้งยังจะได้ส่งเสื้อผ้าของเด็กไปให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจหาคราบอสุจิ หรือหลักฐานอื่นๆ ที่ปรากฎบนกางเกงเด็กด้วย

ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายสมชายฯ ผู้ต้องหาไว้ก่อนว่า ข่มขืนกระทำชำเราและอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย จากนั้นก็ได้ส่งตัวให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฏหมายต่อไป และจะไม่ให้มีการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากถือเป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีผลต่อรูปคดี

พญาราหู พิราบข่าว/สมุทรสาคร