ชาวสวนเศร้า ภัยแล้งทุเรียนคลองลอย ตายไปแล้วกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ คาดปีนี้ผลผลิตไม่ถึง 3 พันตัน
วันที่ 6 พ.ค.63 นายสมมิตร คงสังข์ เกษตรกรบ้านคลองลอย เลขที่ 43/16 ม.8 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ภัยแล้งปีนี้หนักมากในรอบ 20 ปี เริ่มมาตั้งแต่เดือนมกราคม แหล่งน้ำ เช่นอ่างเก็บน้ำคลองลอยแห้ง ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายมาก ต้นทุเรียนตายจำนวนมาก จากทุเรียนที่เคยได้มาก ปีนี้ลดลงเหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ บางคนได้ช่วยเหลือตัวเองด้วยการบรรทุกน้ำเอาไปรดต้นทุเรียนแต่ช่วยไม่ได้มาก
นายชนิด ยอดแก้ว สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า ทุเรียนคลองลอยเป็นทุเรียนที่มีคุณภาพดี สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกษตรกรมีการขึ้นทะเบียนไว้ 3 พันกว่าไร่ ในปีที่ผ่านมาได้ผลผลิตประมาณ 3 พันกว่าตัน ส่งออกต่างประเทศและจำหน่ายในประเทศ สร้างรายได้ให้จังหวัดประจวบฯเกือบพันล้านบาท แต่ในปัจจุบันเกิดปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรง น้ำในอ่างเก็บน้ำแห้ง เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ก็พยายามจะช่วยเหลือตัวเองแต่ติดขัดที่ ที่ดินเกษตรกรอยู่ในเขตป่าไม่สามารถขุดสระเองได้จะผิดกฎหมาย อาจจะเหลือเพียงชื่อทุเรียนคลองลอยเพราะต้นจะตายหมด จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน และอยากให้มีการขุดลอกอ่างเก็บน้ำคลองลอยให้มีสภาพเป็นกาละมัง ไม่ใช่ขุดลอกแบบจาน ที่เก็บน้ำได้น้อย ในแต่ละปีไม่พอใช้ อีกทั้งต้องการให้เข้ามาขุดลอกในช่วงฤดูแล้ง เพราะเมื่อถึงฤดูฝน ก็ขุดลอกได้น้อยเพราะน้ำจะไหลลงอ่างจนไม่สามารถขุดลอกได้
นายนันทปรีชา คำทอง ประธานเครือข่ายเกษตรวิถีธรรมชาติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ทุเรียนคลองลอยสร้างรายได้ให้กับประเทศจะเป็นพันล้าน จึงอยากฝากภาครัฐ ให้เข้ามาช่วยเหลือแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร โดยการจัดการทรัพยากรน้ำระยะสั้น และระยะยาวอย่างยั่งยืนตามแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ ให้สอดคล้องกัน น้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่คลองลอยเก็บไว้ได้ประมาณ 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เหลือไหลลงสู่ทะเล จึงต้องสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ให้เพียงพอ การที่ส่วนราชการใช้รถยนต์คันเดียววิ่งแจกน้ำคงจะไม่ประสบผลสำเร็จในการแก้ปัญหา
พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์