จังหวัดมุกดาหาร ประชุมหารือกลุ่มผู้ประกอบการภาคเอกชน เพื่อหาแนวทางบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจของมุกดาหาร
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.63 ที่ห้องประชุมแก้วมุกดา ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมหารือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนผู้ประกอบการธุรกิจห้างร้านภาคเอกชน เกี่ยวกับแนวทางบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจของ จ.มุกดาหาร ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนด ตามมาตรา 9 พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ให้ยังคงมาตรการล็อคดาวน์ ไม่ว่าจะเป็นการห้าม การให้กระทำการ หรือการผ่อนคลายใด ๆ มีผลบังคับใช้ต่อไปเช่นเดิม จนกว่าจะได้มีข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่นตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2563 ซึ่งในส่วนของจังหวัดมุกดาหาร ได้แก่ มาตรการควบคุมเข้าราชอาณาจักร ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ , มาตรการห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน หรือ เคอร์ฟิว 22.00 – 04.00 น. , มาตรการการกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและแรงงานต่างด้าว ให้กักตัวในสถานที่จังหวัดจัดให้ (Local Quarantine) 14 วัน หรือมาจากพื้นที่จังหวัดกลุ่มเสี่ยงให้กักตัวที่ (Local Quarantine) และหากประเมินว่าบ้านมีความพร้อมในการกักตัวให้กักตัวที่บ้าน (Home Quarantine) 14 วัน , มาตราการงดและชะลอการดินทางเข้าจังหวัด , มาตรการงดการเข้าสถานที่แออัดเสี่ยงต่อโรคชั่วคราว และงดจำหน่าย จ่าย แจก สุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทุกประเภท
ในส่วนภาคธุรกิจบริษัทห้างร้าน มีข้อเสนอ ต่อที่ประชุม ในเรื่องการผ่อนคลายตามมาตรการต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจและการค้าขายต่างๆ สามารถดำเนินไปได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจเอกชน โดยจะเคร่งครัดตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม 1- 2 เมตร หรือ Social distancing
นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวในช่วงท้ายว่า ขณะนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้มีประกาศผ่อนปรน 6 กิจกรรม โดยจะเริ่มตั้งแต่ 3 พ.ค. 2563 เช่น ร้านอาหาร ตลาด ร้านตัดผม กิจการค้าปลีก กีฬาสันทนาการ แต่ต้องประเมินทุก 14 วันหากมีปัญหาผู้ป่วยเพิ่มต้องทบทวนทันที ซึ่งทางจังหวัด จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบโดยเร็วทุกช่องทาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจในจังหวัดต่อไป
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร