ผบ.ทบ.ตรวจช่องทางข้ามเถื่อน ย้ำทุกนายคุมเข้มพบลักลอบให้นำเข้าขบวนการคัดกรองโรค

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 เม.ย. 63 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และคณะ ได้เดินทางไปดูสภาพช่องทางข้ามธรรมชาติหลังชุมชนตันหยงมะลิ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมี พล.ท.พรศักดิ์ พูนสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 พล.ต.สมดุลย์ เอี่ยมเอก ผบ.ฉก.นราธิวาส พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผบ.พล.ร.5 และเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องคอยให้การต้อนรับ โดย พ.อ.ศุภชัย สงสังข์ รอง ผบ.ชุดควบคุมป้องกันชายแดน เป็นผู้บรรยายสรุปการปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบ ตลอดแนวริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก จากพื้นที่ อ.ตากใบ จรดรอยต่อ อ.แว้ง ซึ่งมีระยะทาง 45 ก.ม. โดยผลการปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. ถึง 21 เม.ย. 63 สามารถจับกุมคนไทยที่เดินทางไปขายแรงงานต่างๆในประเทศมาเลเซีย ที่ลักลอบเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ ได้จำนวน 468 คน ที่ไม่ได้อนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล หลังประเทศไทยและมาเลเซีย มีมาตรการในการป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยเวลาที่มีการลักลอบเข้าทางช่องทางธรรมชาติ ส่วนใหญ่เป็นช่วงเวลาพลับค่ำจรดรุ่งสาง โดยอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่มีการสับเปลี่ยนกำลัง

และเมื่อ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. รับฟังการบรรยายสรุปแล้วเสร็จ ได้เดินดูทัศนียภาพโดยรวม เอื้อต่อการลักลอบเข้าเมือง จากสภาพของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่ตื้นเขิน จึงย้ำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการในการสกัดกั้นกลุ่มบุคคล ที่แอบลักลอบเข้าเมือง โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ที่คนไทยในมาเลเซียอาจจะเป็นบุคคลที่นำเชื้อมาแพร่ระบาดในประเทศไทย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารหาอุปกรณ์ส่องสว่างติดตั้งตามจุดต่างๆเป็นระยะๆ อย่างน้อยเป็นการใช้จิตวิทยาปรามกลุ่มบุคคลที่อาจจะฉวยโอกาสข้ามแดนในช่วงเวลากลางคืน หากจับกุมตัวได้ให้ส่งเข้ากระบวนการคัดกรองโรค

ซึ่งต่อมา พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. และคณะ ได้เดินทางไปยังช่องทางข้ามธรรมชาติหลังหมู่บ้านศาลาอูมา ต.กายูคละ อ.แว้ง ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับ อ.สุไหงโก-ลก โดยมี พ.อ.โกเมธ รัตนผ่องใส ผบ.พัน ร.เชิงรุกที่ 1 และกำลังพลจำนวนหนึ่ง คอยให้การต้อนรับ ซึ่งตลอดพื้นที่รับผิดชอบกว่า 10 ก.ม. ผลการปฏิบัติไม่มีการลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางข้ามธรรมชาติ มีเพียงการจับกุมการลักลอบสินค้าหนีภาษีแต่ไม่มากนัก เนื่องจากสภาพของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ช่วงระหว่างรอยต่อ อ.สุไหงโก-ลก จรด อ.แว้ง มีความลึกที่ไม่เอื้อต่อการเดินหรือว่ายน้ำข้ามมายังฝั่งประเทศไทย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ก็ได้เน้นย้ำกำลังพลอย่าไว้วางใจ เมื่อกลุ่มที่ลักลอบเข้าเมืองถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก อาจจะย้ายมาลักลอบข้ามตามช่องทางธรรมชาติในเขต อ.แว้งก็เป็นได้

และก่อนที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. จะเดินกลับกลับได้มีการมอบอาหารกึ่งสำเร็จรูปและเครื่องดื่ม พร้อมด้วยเงินสดจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ ปฏิบัติหน้าที่ตามช่องทางข้ามธรรมชาติทั้ง 2 จุด และได้นำความห่วงใยของนายกรัฐมนตรี บอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่ทหารให้ทำตัวนั่งอยู่ในหัวใจของประชาชน

ส่วนความคืบหน้ากรณีการผ่อนปรนให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย ที่ได้อนุญาตผ่านสถานทูตและสถานกงสุล ได้เดินทางผ่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อกลับภูมิลำเนา ในวันที่ 4 พบว่า บรรยากาศโดยทั่วไปเริ่มเปิดด่านพรมแดนช่วงเวลา 07.00 น. มีคนไทยทยอยเดินทางข้ามแดนมาอย่างต่อเนื่อง จากรายชื่อที่ขออนุญาตถูกต้อง จำนวน 100 คน เดินทางเข้าประเทศ จำนวน 79 คน ซึ่งถือว่าคนไทยที่ได้รับอนุญาตถูกต้องได้เดินทางเข้าประเทศมากกว่าทุกวัน โดยมียอดรวม 4 วัน คนไทยที่เดินทางเข้าประเทศแบบถูกต้อง จำนวน 236 คน

แต่ถึงอย่างไรก็ตามนอกเหนือจากเจ้าหน้าที่จะทำการคัดกรองกลุ่มบุคคล ที่เดินทางผ่านด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ที่ได้รับอนุญาตถูกต้องในวันนี้แล้ว ก็ต้องมีการคัดกรองกลุ่มบุคคลที่หลบหนีเข้าเมืองตามช่องทางข้ามธรรมชาติ ซึ่งตั้งอยู่บ้านน้ำตก ม.5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวเอาไว้ได้ในช่วงเย็นของวันที่ 20 เม.ย. 63 ที่ผ่านมา จำนวน 117 คน และได้ผ่านกระบวนการคัดกรองและเปรียบเทียบปรับและได้ส่งตัวไปกักตามภูมิลำเนาที่อาศัยอยู่ ซึ่งแล้วเสร็จในช่วงค่ำที่ผ่านมา จำนวน 65 คน

ส่วนที่เหลืออีก 52 คน ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำรถยนต์บรรทุกไปรับตัวยังสถานที่กักตัวชั่วคราว ใต้อาคารสนามฟุตบอลมหาราช แล้วนำตัวมาคัดกรองโรคทำประวัติและทำการเปรียบเทียบปรับ ที่บริเวณด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ซึ่งสถิติกลุ่มคนไทยที่เดินทางผ่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยไม่ผ่านการขออนุญาตจากสถานทูตและสถานกงสุล และกลุ่มคนไทยที่ไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ รวมทั้งกลุ่มคนไทยที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผ่านช่องทางข้ามธรรมชาติ รวม 3 วัน มีจำนวนทั้งสิ้น 672 คน

ภาพ/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  นราธิวาส