สำนักงานศาลยุติธรรมเตรียมนำศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เข้าสู่ระบบออนไลน์ เพื่อช่วยเหลือคู่ความ ให้ลดค่าใช่จ่าย ลดการเดินทาง โดยคู่ความและผู้ประนอมข้อพิพาท ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน

สำนักงานศาลยุติธรรมเตรียมนำศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เข้าสู่ระบบออนไลน์

เพื่อช่วยเหลือคู่ความ ให้ลดค่าใช่จ่าย ลดการเดินทาง โดยคู่ความและผู้ประนอมข้อพิพาท ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน

 

 

นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุว่า ขณะนี้สำนักงานศาลยุติธรรมเตรียมนำศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เข้าสู่ระบบออนไลน์ เพื่อช่วยเหลือคู่ความ ให้ลดค่าใช่จ่าย ลดการเดินทาง โดยคู่ความและผู้ประนอมข้อพิพาท ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน

หลังวิเคราะห์แล้วมีแนวโน้มว่า หลังจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 จนส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ จะเกิดคดีฟ้องร้องบังคับชำระหนี้ และคดีแรงงาน กรณีลูกจ้างถูกนายจ้างบอกเลิกจ้างขึ้นเป็นจำนวนมาก

นายสราวุธ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีศาลแพ่งแผนกคดีผู้บริโภคมีคดีอยู่ถึง 4-5 แสนคดี ซึ่งกฎหมายบังคับให้มีการไกล่เกลี่ย ดังนั้นจึงเตรียมใช้ระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์ เช่นเดียวกัน ขณะที่กรณีการเกิดข้อพิพาทของผู้บริโภคกับผู้ให้บริการ ในการสั่งซื้อขายสินค้าออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ต่างๆที่มีข้อตกลงให้ผู้ใช้บริการ ต้องฟ้องเป็นคดีระงับข้อพิพาทผ่านอนุญาโตตุลาการ  สำนักงานศาลยุติธรรมก็จะใช้การไกล่เกลี่ยผ่านระบบออนไลน์ เพื่อลดค่าใช้จ่าย ให้สมกับมูลค่าสินค้าที่มีข้อพิพาทที่อาจเป็นจำนวนไม่มากนัก ซึ่งผู้ได้รับความเดือนร้อนจนมองว่าหากใช้การดำเนินกระบวนการตามปกตินั้นเกิดความไม่คุ้มค่า

สำหรับตัวผู้ประนอมข้อพิพาทนั้น ก็ต้องรับความท้าทายในการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีให้มีความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ ส่วนทักษะการประนอมข้อพิพาทนั้นเชื่อว่าเมื่อมีคดีข้อพิพาทต่างๆเข้าสู่ศูนย์ไกล่เกลี่ยก็จะยิ่งเพิ่มวิสัยทัศน์ในการหาช่องทางเพื่อยุติข้อพิพาทและหาทางออกให้คู่ความได้รับความพึงพอใจมากขึ้นเช่นกัน