“เทงบ61ล้านบาท หนุนเกษตรกร 1พันคนในพื้นที่ภัยแล้ง-บรรเทาพิษโควิด ปลูกพืชปุ๋ยสด รับซื้อคืน2พันตัน”
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. น.ส.เบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงภัยแล้งนี้และสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 รัฐบาลได้ช่วยเหลือเกษตรกร ส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่จากการปลูกพืชหลักที่ใช้น้ำปริมาณมาก เป็นการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ซึ่งพืชปุ๋ยสดเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ต้องการน้ำน้อย และยังสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นและอินทรียวัตถุให้กับดิน เป็นการปรับปรุงบำรุงดิน จึงจัดทำโครงการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดในพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้จากการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด ด้วยการรับซื้อคืนเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด ซึ่งเกษตรกรสามารถนำพืชปุ๋ยสดไปใช้ในการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นได้ ส่งผลให้เกษตรกรมีอาชีพเสริมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในช่วงฤดูแล้งและวางแผนการเพาะปลูกพืชได้อย่างเหมาะสม โดยมีระยะเวลาดำเนินการในช่วงเดือน เมษายน-มิถุนายน 2563 และมีเป้าหมายรับซื้อคืนเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด ในจำนวน 2,000 ตัน เกษตรกรได้รับประโยชน์ 1,000 ราย งบประมาณกว่า61ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นงบกลาง38ล้านบาท
สถานีพัฒนาที่ดินจะกำหนดพื้นที่เป้าหมาย พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจ เมื่อได้ข้อมูลรายชื่อเกษตรกรที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้ว เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน จะลงพื้นที่เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับเกษตรกร ในการให้ความรู้เรื่องการผลิตเมล็ดพันธุ์ให้ได้มาตรฐานตามหลักวิชาการ โดยเกษตรกรเป็นผู้บริหารจัดการและดำเนินการเองทั้งหมด และให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับเกษตรกรตรวจสอบปฏิบัติงาน และหลังจากได้เมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดแล้ว กรมพัฒนาที่ดินจะรับซื้อและมีการตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ตามมาตรฐานของกรมพัฒนาที่ดิน เมื่อเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสดผ่านการตรวจสอบแล้วเกษตรกรจะได้รับเงินผ่าน ธ.ก.ส.