“เฉลิมชัย”ซับน้ำตาชาวไร่ยาสูบเพชรบูรณ์ ดัดหลังพ่อค้าหน้าเลือด กดราคา “อลงกรณ์”ประสาน อธิบดีสรรพสามิต ดึงโรงงานยาเส้นซื้อตรง300ตัน
วันนี้ 16 เมษายน63 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการรับฟังความเดือดร้อนและร่วมหารือแนวทางแก้ปัญหากับตัวแทนชาวไร่ยาสูบ กรณีที่มียาเส้นค้างสต็อกจำนวนกว่า300ตัน ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี นาสาคร รุ่งเรือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ , นายยุพราช บัวอินทร์ อดีต สส.จังหวัดเพชรบูรณ์ สรรพสามิตพื้นที่ เกษตรจังหวัดฯ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยชมรมอนุรักษ์ยาเส้น ตัวแทนพ่อค้าคนกลางรายย่อย และตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน จากพื้นที่อำเภอหล่มเก่า และอำเภอหล่มศักดิ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าร่วมประชุม
โดยตัวแทนเกษตรกรชาวไร่ยาสูบและพ่อค้าคนกลางรายย่อย แจ้งว่าปัญหา “เกิดขึ้นหลังจากการขึ้นภาษีสรรพสามิตปลายปีที่แล้วทำให้พ่อค้าคนกลางหยุดรับซื้อ ในขณะที่โรงงานก็มียาเส้นค้างสต็อกไม่สามารถรับซื้อได้ ทำให้มียาเส้นค้างสต็อกอยู่กับเกษตรกรกว่า300,000 กิโลกรัม โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ อยู่ที่ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก แหล่งปลูกยาสูบมากที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์กว่า 4,000 ครัวเรือนซึ่งราคาที่พ่อค้ารับซื้อ ปัจจุบัน อยู่ที่ 70 บาทต่อกิโลกรัม เป็นราคาที่ไม่เป็นธรรมจากที่เคยซื้อ120 บาทต่อกิโลกรัม”
นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า” การมารับฟังความเห็นครั้งนี้ ทางกระทรวงเกษตรฯได้หารือเบื้องต้นกับกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง มาแล้ว เนื่องจากยาสูบเป็นพืชที่ดูแลโดยกรรมสรรพสามิต โดยวางแผนทั้งระยะสั้นกับระยะกลางถึงระยะยาว ระยะสั้นนั้นได้หารือกับโรงงานใหญ่ๆในประเทศให้ช่วยรับซื้อยาไปสต็อก ในราคาที่เป็นธรรม ส่วนระยะกลางและระยะยาว นั้นจะร่วมกันหาทางออกในการแก้ไขระเบียบกฏกระทรวงเพื่อให้ความเป็นธรรมด้านภาษีต่อไป”
ขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่าการเปลี่ยแปลงในระบบภาษีและประกาศ กฏกระทรวง อาจทำให้เกิดผลกระทบ แต่สิ่งที่ต้องร่วมกันค้นหา คือการแก้ปัญหาระยะสั้นอย่างไร และการแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างไรให้ยั่งยืน ในการแก้ปัญหาระยะสั้นเบื้องต้นจะประสานให้ทางกรมสรรพสามิตโดยท่านอธิบดีฯ ลงมาดูแลร่วมกัน พร้อมทั้งหาวิธีการซื้อโดยไม่ผ่านระบบ การซื้อผ่านระบบปกติ โดยเจรจาโรงงานแปรรูปขนาดใหญ่ในประเทศ ให้รับซื้อในราคาที่เป็นธรรมซึ่งไม่ควรต่ำกว่า 90 บาทต่อกิโลกรัม โดยทางโรงงานตอบว่าสามารถ ซื้อได้เบื้องต้นบางส่วน และได้สั่งการให้เกษตรจังหวัดส่งรายชื่อเกษตรกรพร้อม สต็อก ยาเส้นที่แต่ละครัวเรือนมีอยู่ จะได้ไม่ตกหล่นในการช่วยเหลือหากเกินจากความสามารถรับซื้อจากโรงงานรัฐบาลก็ต้องเข้ามาช่วยเหลือเหมือนกับกรณีกุ้งและมะม่วง
ส่วนระยะกลางและยาว นั้น นอกจากการปรับปรุงมาตรการทางด้านภาษีให้เกิดความเป็นธรรมแล้ว พี่น้องเกษตรกรต้องทำความเข้าใจว่ายาเส้นเป็นพืชที่ถูกควบคุมและรัฐจะต้องลดปริมาณการผลิตและลดผู้สูบลงเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาแนวทางปลูกพืชเศรษฐกิจในอนาคต ทดแทน เช่นโกโก้ ซึ่งในตลาดโลกมีความต้องการมาก
โดยนายอลงกรณ์กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่าที่ผ่านมา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตร ได้กำชับมาว่าให้ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างสุดความสามารถ และไม่เกี่ยงว่าพืชนั้นจะสังกัดกระทรวงเกษตรฯ หรือไม่ ให้ถือเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตัวตั้ง