ญาติผู้เสียชีวิตแรงงานพม่าโวย แพทย์ รพ.ไม่ยอมมาชันสูติศพที่เกิดเหตุ อ้างไม่ใช่หน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการเก็บศพเอง
เมื่อเวลา 10.00น. วันนี้ 5 เม.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้เสียชีวิตที่แคมป์คนงานพม่าไม่มีเลขที่ หลังโรงแรมแกรนด์โอลิเวอร์ ในพื้นที่ ม.7 ตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา จึงได้ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านพักคนงานพม่า ซึ่งปลูกบ้านเป็นครอบครัวละ 1 หลัง รวมกว่า 10 หลัง โดยหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้หลังคาสังกะสี พบนาง คิม เอ อายุ 50 ปี เป็นชาวพม่า นอนเสียชีวิตอยู่ที่ประตูบ้าน โดยสวมเสื้อยืดสีเขียวและผ้าถุง ร่างกายไม่พบบาดแผลใดๆ เบื้องต้นจากการสอบถาม ญาติ นางคิม เอ บอกว่า นาง คิม เอ ป่วยมานานนับเดือน โดยนางคิม เอ มีโรคประจำตัวคือโรคความดันสูง และมักจะมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกบ่อย แต่ นางคิม เอ ก็ไปพบแพทย์อยู่บ่อยครั้ง และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางคิม เอ จะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่เกิดเป็นลมหมดสติ และเสียชีวิต
ทางญาติจึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบ และประสานไปยังโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ อ.สะเดา เพื่อที่จะให้แพทย์มาชันสูติพลิกศพ ว่าผู้เสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร เพราะทางญาติของผู้เสียชีวิตก็กลัวว่าผู้เสียชีวิต จะป่วยเป็น โควิด19 จึงอยากให้แพทย์ที่ชำนาญ ตรวจสอบผลการเสียชีวิต
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา ประสานไปยังโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่ใช่หน้าที่ของแพทย์ที่จะต้องมาดูศพที่เกิดเหตุ ต้องให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้ดำเนินการ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพในเขตพื้นที่ ก็ต้องให้แพทย์โรงพยาบาล ที่รับผิดชอบพื้นที่เข้าชันสูติศพก่อน เพราะทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพไม่มีเครื่องมือป้องกันเพียงพอ หากทางแพทย์ของโรงพยาบาล ได้ชันสูติแล้วเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพถึงจะดำเนินการยกศพได้
เมื่อญาติของผู้เสียชีวิต ทราบว่าทางโรงพยาบาลไม่มาชันสูติศพ ทางญาติก็โวยวายว่าทำไมเป็นหมอแล้วไม่มาดูศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา จึงได้ประสานกับโรงพยาบาลไปอีกครั้ง แต่ก็ได้คำตอบเดิม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา จึงตัดสินใจ ยกศพกับบรรดาญาติผู้เสียชีวิต ส่งไปชันสูติที่โรงพยาบาลปาดังเบซาร์เอง ว่าผู้เสียชีวิต เสียชีวิตด้วยโรคประตัวหรือ เสียชีวิตด้วยโรคอื่น
ภาพ-ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร/พิภพ ประดิษฐ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา