ศรีสะเกษเคอร์ฟิว จับแล้ว 6 รายออกนอกบ้านหลัง 4 ทุ่ม
ผู้การตำรวจเตือนให้ปฏิบัติตามมาตรการเพื่อต้านโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาดมากกว่าเดิม ขณะที่ตำรวจกันทรลักษ์ชายแดนปราสาทพระวิหารคุมเข้มเต็มที่
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 4 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) อันนี้มีสาระสำคัญ คือ ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นตามที่กำหนดไว้ ตนจึงได้สั่งการให้สถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในสังกัด ได้ดำเนินการปล่อยแถวระดมยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ โดยในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ทำการปล่อยแถวโดยมี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี ปล่อยแถวตำรวจ อสจ. เจ้าหน้าที่เทศบาล และเจ้าหน้าที่กู้ภัย จำนวน 170 นาย ออกปฏิบัติการตลอดทั้งคืน โดยเน้นการปฏิบัติ กวดขันจับกุมการกักตุนสินค้า จำหน่ายสินค้าเกินราคาหรือสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางที่สำคัญในพื้นที่ เพื่อป้องปรามการเดินทางออกจากเคหสถานของประชาชนนอกเวลาที่กำหนดไว้ รวมทั้งยังได้ร่วมตรวจเยี่ยม จุดตรวจ จุดสกัดหน้าปั๊ม ปตท. ชุมชนโนนสำนัก รวมถึงร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมันด้วย
พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยต่อไปว่า จากการที่ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกแห่งได้ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้นอย่างเคร่งครัด ผลการดำเนินการปรากฏว่า ในส่วนของสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ได้ทำการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนพระราชกำหนด จำนวน 6 รายด้วยกัน ส่วนมากแล้วเป็นวัยรุ่นมารวมตัวกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้ที่จงใจฝ่าฝืน และไม่มีเหตุอันควรออกนอกเคหสถาน จะต้องมีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตนจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวศรีสะเกษร่วมกันต้านการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้ โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้มีอาการป่วย รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณตา จมูก และปาก โดยไม่ได้ล้างมือ ควรล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือน้ำยาแอลกอฮอล์ล้างมือ 70% หากมีไข้ ไอ หายใจลำบาก ให้ไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการเดินทางด้วย ขอให้ประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคนร่วมมือกันในการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นต้องการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเต็มที่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ทางด้านสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์จังหวัดศรีสะเกษ พ.ต.อ.คารม บุญสด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร กันทรลักษ์ ได้ร่วมกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามความในมาตรา 9 พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 2) อันนี้มีสาระสำคัญ คือ ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เคร่งครัด เนื่องจากว่า อำเภอกันทรลักษ์อยู่ติดแนวชายแดนไทย – กัมพูชาด้านปราสาทพระวิหาร จึงได้มีการดำเนินการอย่างเข้มงวด ซึ่งผลการดำเนินการไม่พบว่า มีการฝ่าฝืนพระราชกำหนดดังกล่าวแต่อย่างใด
ข่าว/ภาพ … บุญทัน ธุศรีวรรณ