ส.ป.ก. ได้รับหนังสือ ส่งคืนที่ดิน 682 ไร่ฉบับใหม่จาก “ปารีณา” ซึ่งได้ตัดข้อความสงวนสิทธิ์ที่ระบุไว้ในหนังสือฉบับแรกออกไป เป็นหนังสือมอบคืนที่ดินซึ่งไม่มีเงื่อนไข
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระบุ ส.ป.ก. ต้องเร่งเข้ารังวัดและนำเข้าสู่กระบวนจัดสรรสิทธิ์แก่เกษตรกรและผู้ยากไร้จำนวนมากที่รอที่ดินทำกินอยู่ หากล่าช้าอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
แหล่งข่าวด้านกฎหมายระดับสูง จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังน.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐให้ทำหนังสือมอบคืนที่ดินฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม” 682 ไร่ เลขที่ 109 หมู่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรีซึ่งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินมาใหม่ โดยนายนภดล ตันติเมฆิน ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ส.ป.ก. ได้ส่งหนังสือถึงน.ส. ปารีณาตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม เป็นคำสั่งทางปกครองซึ่งน.ส. ปารีณาจะต้องตอบกลับภายใน 7 วันหลังได้รับหนังสือ ทั้งนี้น.ส. ปารีณาได้ทำหนังสือส่งถึงส.ป.ก. แล้วเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยไม่ปรากฏข้อความ “ขอใช้สิทธิเป็นอันดับแรกตามที่กฎหมายกำหนด” เนื่องจากทางส.ป.ก. ระบุว่า หนังสือส่งมอบที่ดินจะต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ อีกทั้งน.ส. ปารีณาขาดคุณสมบัติการเป็น “เกษตรกร” ที่จะได้รับหนังสืออนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินส.ป.ก.
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ส.ป.ก. ได้รับหนังสือมา 1 สัปดาห์แล้ว ตามพ.ร.บ. ปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก. ต้องเร่งเข้าสำรวจและรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าวนำเข้าสู่กระบวนการจัดสรรที่ดินทำกินแก่เกษตรกรและผู้ยากไร้ซึ่งลงชื่อรออยู่เป็นจำนวนมาก โดยสามารถดำเนินการในส่วนซึ่งไม่มีสิ่งก่อสร้างได้ทันที สำหรับบริเวณที่มีโรงเรือนให้เร่งเข้ารื้อถอนออก การมอบหนังสือทำประโยชน์ส.ป.ก. 4-01 แก่ผู้มีคุณสมบัติซึ่งกฎหมายกำหนดให้รายละไม่เกิน 50 ไร่นั้นยังเป็นการป้องกันผู้ครอบครองเดิมกลับเข้าไปใช้ประโยชน์อีก ทั้งนี้ควรดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็ว หากล่าช้าอาจมีผู้หนึ่งผู้ใดร้องเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้
สำหรับการที่กรมป่าไม้ขอหารือต่อคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น ทางคณะกรรมการได้ติดต่อสอบถามข้อกฎหมายจากส.ป.ก. บ้างแล้วเพื่อจะสรุปความเห็นว่า การแจ้งความดำเนินคดีตามพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ในที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นหน้าที่ของหน่วยงานใดเนื่องจากส.ป.ก. ระบุว่า ไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่ทางกรมป่าไม้ระบุว่า ได้มอบที่ดินบริเวณนี้ให้ส.ป.ก. ซึ่งส.ป.ก. ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว ดังนั้นส.ป.ก. จึงเป็นหน่วยงานที่ดูแลที่ดินบริเวณนี้อยู่ ต้องเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษน.ส. ปารีณาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตามพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4 (1) ซึ่งนิยามคำว่า ป่า หมายความว่า ที่ดินที่ยังมิได้มีบุคคลใดได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 54 ห้ามแผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ ครอบครองป่า มีโทษตามมาตรา 72 ทวิคือ จำโทษไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดตามพ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ห้ามยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ อยู่อาศัย ก่อสร้าง หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ห้ามเข้ายึดถือ ครอบครอง หรือทำลายที่ดินของรัฐ มีโทษตามมาตรา 108 หากกระทำความผิดในที่ดินของรัฐเกินกว่า 50 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยน.ส. ปารีณาแจ้งการครอบครองที่ดินบริเวณนี้ทั้งหมด 29 แปลง การดำเนินคดีจะแยกเป็น 29 กระทง ตลอดจนความผิดทางแพ่งตามพ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 มาตรา 97 ซึ่งต้องรับผิดชอบความเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายในที่ดินรัฐ