ลดาวัลลิ์ พร้อมร่วมกับชาวประจวบคีรีขันธ์ ผลักดันการเปิดด่านถาวรสิงขร
ภายหลังคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางไปยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 เพื่อดูความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารพรมแดน(CIQ) และแนวเขตแดนติดต่อที่ยังมีปัญหาเรื่องการสำรวจรายละเอียดเขตแดนหรือ Joint Detail Survey ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในการยกระดับจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าชายแดนอย่างเต็มรูปแบบ
ล่าสุดวันที่ 24 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายเทอดธนัท สีเขียว นางสาวเมลิสา มหาพล และคณะทำงานจากศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ / ร้องเรียน พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ด่านสิงขร และข้ามไปหมู่บ้านมูดอง ฝั่งสหภาพพม่า ดูข้อเท็จจริงในพื้นที่ก่อนรายงานต่อกรรมการบริหารพรรค เพื่อร่วมผลักดันให้มีการเปิดด่านถาวรโดยเร็วที่สุด มีนายดิเรก จอมทอง คณะทำงานนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายมานพ ครุฑเผือก กำนันตำบลเกาะหลัก และนายมาโต โตทอง กำนันตำบลคลองวาฬ ร่วมเป็นผู้ประสานงานในพื้นที่ของทั้งสองประเทศ
นางลดาวัลลิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนทราบจากนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒศักดิ์ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย และนายวิชิต ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของพรรค ทั้ง 2 คน เป็นผู้ผลักดันให้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ เดินทางมาที่นี่ตอนต้นเดือน หากจุดผ่อนปรนสิงขรเปิดเป็นด่านถาวรเมื่อไหร่ ตนมั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านการท่องเที่ยวอีกมากมาย ไม่เพียงประจวบคีรีขันธ์ แต่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย สหภาพพม่าสร้างสาธารณประโภคไว้รอรับการเชื่อมต่อกับเรา ทั้งถนน 4 ช่องจราจรความยาว 182 กิโลเมตร จากมูดอง ถึงจังหวัดมะริด ขยายระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ระบบน้ำ การสื่อสาร แต่ยังติดปัญหา Joint Detail Survey หรือเรื่องของแนวเขตแดน จากนี้ตนขอมีส่วนร่วมในการผลักดันและตั้งใจเดินทางกลับมาที่นี่อีกครั้งต้นปี 2563
นายพรเทพ กล่าวว่าในการประชุมที่ศาลากลางจังหวัดที่ผ่านมา ตนเคยแสดงความเห็นว่า การผลักดันให้มีการเปิดด่านถาวรเกิดขึ้นมานานแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะหลายฝ่ายยกปัญหามาเป็นอุปสรรค ดังนั้นจากนี้ไปควรเอาเป้าหมายเป็นที่ตั้ง ส่วนอุปสรรคก็ต้องช่วยกันแก้ไขและหาทางออก ตนมั่นใจว่าสุดท้ายแล้วเมื่อหลายฝ่ายร่วมมือกันงานนี้ต้องสำเร็จอย่างแน่นอน
ส่วนนายวิชิต ได้พูดพูดถึงขบวนการทำงานในพื้นที่ว่า เบื้องต้นขอให้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ได้ติดตามและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด โดยเฉพาะฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคง ปัญหาเรื่อง Joint Detail Survey ควรมีความยืดหยุ่นระหว่างกัน เร่งรัดให้มีการเจรจาโดยทันทีและต่อเนื่อง ส่วนการค้าชายแดนควรลดบรรยากาศสนามรบที่มีเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือแล้วเปลี่ยนให้เป็นสนามการค้าการท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับวิถีชาวบ้าน ตนอยู่ในพื้นที่ตลอดพร้อมประสานงานกับทุกฝ่าย ครั้งนี้ตนมองเป็นโอกาสที่พี่น้องประจวบคีรีขันธ์ จะก้าวไปด้วยกัน เราเสียโอกาสพัฒนาจังหวัดของเรามานานมากพอแล้ว
พันธุ์พงษ์ โพธิ์จินดา ประจวบคีรีขันธ์