สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรระบุ โรคใบร่วงในยางพาราที่ระบาดหนักในจังหวัดนราธิวาสและตรัง รวมพื้นที่กว่า 300,000 ไร่ ส่งผลให้เกษตรกรสูญเสียรายได้ถึง 253 ล้านบาท

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรระบุ โรคใบร่วงในยางพาราที่ระบาดหนักในจังหวัดนราธิวาสและตรัง รวมพื้นที่กว่า 300,000 ไร่ ส่งผลให้เกษตรกรสูญเสียรายได้ถึง 253 ล้านบาท

 

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 จังหวัดสงขลาร่วมกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ตรวจสอบและประเมินสถานการณ์พบว่า ขณะนี้มีการระบาดของโรคดังกล่าว ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสและตรัง รวม 365,883 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 17 ของเนื้อที่กรีดได้ (ข้อมูลวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562) แบ่งเป็น จังหวัดนราธิวาส 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ยี่งอ รือเสาะ เจาะไอร้อง จะแนะ สุคิริน แว้ง ระแงะ สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก ศรีสาคร และตากใบ เนื้อที่ 365,483 ไร่ ส่วนจังหวัดตรังพบการระบาดเฉพาะพื้นที่อำเภอเมืองตรัง 400 ไร่ ทั้งนี้สศก. วิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากพื้นที่ระบาดของทั้ง 2 จังหวัด ปกติแล้วปริมาณผลผลิตทั้งปีรวม 93,305 ตัน แต่เมื่อเกิดโรคทำให้ผลผลิตลดลงร้อยละ 30 – 50 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2562 จะส่งผลให้เกษตรกรสูญเสียรายได้มูลค่า 253 – 423 ล้านบาทหรือ เฉลี่ยเดือนละ 126 – 211 ล้านบาท หากไม่สามารถควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคได้จะทำให้ผลผลิตของทั้ง 2 จังหวัด ลดลงอีก โดยจาการคาดการณ์ผลผลิตปี 2563 ลดลงประมาณ 27,991 – 46,652 ตัน และอาจส่งผลให้เกษตรกรสูญเสียรายได้มูลค่า 1,255 – 2,093 ล้านบาทต่อปีหรือเฉลี่ยเดือนละ 104 – 174 ล้านบาท

 

เลขาธิการ สศก. กล่าวต่อว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กยท. กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมวิชาการเกษตรเฝ้าระวัง พร้อมจัดทำคำแนะนำการป้องกันการระบาดของโรคใบร่วงยางพาราเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการในพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างออกสำรวจ ติดตามพื้นที่การระบาด พร้อมให้คำแนะนำ ป้องกัน ให้ความรู้ พร้อมรายงานข้อมูลให้รับทราบต่อเนื่อง นอกจากนี้ กยท. และกรมวิชาการเกษตรได้มีนำร่องทดสอบการใช้โดรนพ่นสารกำจัดเชื้อราเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของโรคใบร่วงดังกล่าวซึ่งกำลังติดตามผลสัมฤทธิ์ แต่เนื่องจากเชื้อรา Pestalotiopsis sp. แพร่ระบาดโดยลมและฝนจึงยากต่อการป้องกันและควบคุม ดังนั้น ขอให้เกษตรกรระมัดระวังหรืองดการเคลื่อนย้ายวัสดุปลูกและใบยางพาราโดยเฉพาะจากพื้นที่ชายแดนภาคใต้ไปสู่พื้นที่อื่น สำหรับต้นยางพาราที่พบว่าเป็นโรคใบร่วงระยะรุนแรงให้เกษตรกรใช้สารเคมีโดยวิธีฉีดพ่นลงดินด้วยสาร thiophanate methyl และพ่นทรงพุ่มยางด้วยสาร benomyl hexaconazole thiophanate methyl triadimefon และ difenoconazole เพื่อกำจัดเชื้อ รวมทั้งบริหารจัดการพื้นที่ป้องกันการระบาดเพิ่มโดยกันพื้นที่เป็นแนวป้องกัน (Buffer Zone) ทั้งนี้ สศก. จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดตามสถานการณ์และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อเตือนภัยอย่างเต็มที่ ซึ่งหากเกษตรกรพบข้อสงสัยว่าจะมีการระบาดของโรคในพื้นที่ หรือต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดการระบาดและคำแนะนำสามารถสอบถามได้ที่สำนักงานการยางแห่งประเทศไทยประจำจังหวัด

 

 

 

You May Have Missed!

1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
คณะกรรมการบริหารโรงเรียนปลูกปัญญา แต่งตั้ง “บิ๊กทิน” ผจก.ฟุตซอลทีมชาติไทย  เป็นประธานที่ปรึกษาโรงเรียน
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
พิพิธภัณฑ์เกษตรฯ เตรียมจัดงานใหญ่ส่งท้ายปี งานมหกรรม ภูมิพลังแผ่นดิน
1 Minute
กิจกรรมเพื่อสังคม
ไม่สนคำ ว่าทำบุญเอาหน้า…เสี่ยเดย์ นักบุญเจ้าเดิมช่วยการศึกษาอีกกว่า 3 ล้าน
0 Minutes
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร จัดงานวันสถาปนาครบรอบ 53 ปี ชูแนวคิด ทุ่มเทอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างประสบการณ์สุขภาพที่เหนือชั้น เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพิ่มการยอมรับและมั่นใจกับผู้มารับบริการ