เลขา ป.ป.ส เผยเคยพบ “แสตมป์มรณะ” หรือ กระดาษเมา เป็นยาเสพติดชนิดหนึ่งแต่ไม่แพร่ระบาดในไทย

กรณีมีการโพส์ตทางสื่อสังคมออน์ไลน์เกี่ยวกับ “แสตมป์มรณะ” หรืออาจเรียกว่า กระดาษเมา กระดาษมหัศจรรย์ และให้ผู้ปกครองระมัดระวังไม่ให้บุตรหลานไปใช้หรือตกเป็นเหยื่อของทุรชนที่ล่อลวงให้ใช้นั้น

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส เปิดเผยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับแสตมป์มรณะหรือกระดาษเมาว่าเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่งที่นำสารแอลเอสดี (LSD) ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ออกฤทธิ์หลอนประสาทเคลือบหรือหยดลงบนกระดาษที่มีคุณสมบัติดูดซับดีและมีสีสันลวดลายต่างๆ จากนั้นจะปรุเป็นชิ้นๆ คล้ายแสตมป์ วิธีการเสพคือฉีกกระดาษลวดลายที่มี LSD เคลือบอยู่นำมาอม เพื่อให้ LSD ดูดซึมเข้าร่างกาย ซึ่งการออกฤทธิ์ระยะแรก จะรู้สึกมีความสุข อารมณ์ดี รู้สึกคึกคัก จากนั้นจะเกิดอาการประสาทหลอนอย่างรุนแรง อาจทำร้ายผู้อื่น และบางรายอาจนำไปสู่การทำค้ายตนเอง รวมถึงฆ่าตัวตาย

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับประเทศไทย ไม่พบว่ามีการแพร่ระบาดยาเสพติดดังกล่าว โดยตั้งแต่ปี 2559 ถึงปัจจุบันพบว่าการจับยึดได้เพียง 3 คดี และแต่ละคดีมี LSD 1-2 ชิ้น โดยพื้นที่จับยึดได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใน กทม เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี โดยผู้ต้องหาเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

เลขาธิการ ป.ป.ส. ให้ความเห็นว่าการโพส์ตข้อความดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อเป็นความรู้และความเข้าใจกับประชาชน และไม่ควรตื่นตระหนก ทั้งนี้สำนักงาน ป.ป.ส. ได้มีระบบเฝ้าระวังด้านระบาดวิทยาของยาเสพติด โดยร่วมกับศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี และเครือข่ายแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ รวมถึงสถานตรวจพิสูจน์ยาเสพติดทั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทั่วประเทศ ดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีระบบข้อมูลผู้เข้าบำบัดรักษายาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุได้ถึงประเภทยาเสพติดที่ผู้เข้ารับการบำบัดรักษาใช้ ดังนั้นหากมียาเสพติดชนิดหรือประเภทใหม่ๆ แพร่ระบาดจะสามารถทราบได้อย่างรวดเร็ว

เลขาธิการ ป.ป.ส. ฝากเรียนพี่น้องประชาชนว่ารัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดให้ยาเสพติดเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขโดยมาตรการสำคัญคือการลดความต้องการยาเสพติด ประกอบกับแนวทางยุติธรรมสร้างสุขของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ใช้ชุมชนและครอบครัวเป็นหลักสำคัญในการป้องกันยาเสพติด ดังนั้นจึงขอให้เด็กและเยาวชนปฏิเสธหากมีบุคคลใดก็ตามพยายามชักชวนหรือโน้มน้าวให้ทดลองเสพยาเสพติดไม่ว่าจะในลักษณะหรือรูปแบบใดๆ และผู้ที่กำลังเสพอยู่ขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา หากเสพหรือนำสารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ผู้เสพมีปัญหาด้านการรับรู้ การคิดและการตัดสินใจ อาจนำมาซึ่งการเกิดเหตุรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเห็นผู้ที่มีพฤติกรรมเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดได้ที่ สายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชม.

@จจ. ป. ป. ส.
ธวัชชัย  เฟื่องอนันต์ รายงาน