พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 แถลงข่าวผลการสืบสวนจับกุม ผู้ร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายสมบัติ นิยมมาก อายุ 52 ปี เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 แถลงข่าวผลการสืบสวนจับกุม ผู้ร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายสมบัติ นิยมมาก อายุ 52 ปี เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

วันเสาร์ที่ 23 พ.ย. 62 เวลาประมาณ 10.00 น. ณ สภ.สวนพริกไทย ภ.จว.ปทุมธานี ภายใต้การอำนวยการของ พล ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 : พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ รอง ผบก.ฯ, พ.ตอ.ประเวทย์ ต้นสมบูรณ์ รอง ผบก.ฯ และพ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ ผกก.สภ.สวนพริกไทย ร่วมกันแถลงข่าวผลการสืบสวนติดตามจับกุม คดีจากที่สื่อสังคมออนไลน์ที่ได้มีการโพสคลิปวิดีโอ มีผู้ที่ร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายสมบัติ นิยมมาก อายุ 52 ปี เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 21 พ.ย.62 เวลาประมาณ 11.50 น. ที่บริเวณใกล้แยกโรงน้ำกรุงเทพน้ำทิพย์ ม.6 ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จว.ปทุมธานี

โดยฝ่ายสืบสวน สภ.สวนพริกไทยร่วมกันออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิด และกดดันผู้ร่วมกระทำความผิดทุกช่องทาง ต่อมาในวันที่ 22 พ.ย.2562 เวลาประมาณ 18.00 น. ต่อเนื่องถึง เวลา 21.00 น.ได้มีผู้ก่อเหตุขอเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 คน คือ
1. นายธันวา หรือบิ๊ก ทรัพย์สินไพบูลย์ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 22/2 ถนนวัฒนธรรมรามัญ 200 ปี ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี (ผู้ที่ปรากฏตามคลิปใช้มือชกต่อย /เท้าเตะ)
2.นายไพโรจน์ หรือหมุด สีทอง อายุ 34 ปี ที่อยู่ 89/29 หมู่ 1 ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี (ผู้ที่ปรากาฏตามคลิปสวมหมวกกันน็อกยืนคุมเชิง)
3.นายรามัญ หรือดำ คงแป้น อายุ 27 ปี ที่อยู่ 75/28 หมู่ 1 ต.บางขะแยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี (ผู้ที่ปรากฏตามคลิปใช้ท่อนแขนล็อกตัว ผสห.)

โดย เมื่อวันที่ 21 พ.ย.62 นายสมบัติ นิยมมาก อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/3 ม.5 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ผู้เสียหาย ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน (ร.ต.อ.เลิศวรรณ์ อุทัยนาง) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 21 พ.ย.62 ได้นัดเจรจากับนายธันวาหรือบิ๊กฯ เรื่องค้างค่าจ้างแรงงานของญาติที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปทุมธานี เมื่อตกลงและจ่ายเงินค่าจ้างกันเรียบร้อยแล้วได้ขับรถยนต์ออกจากตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปทุมธานี พร้อมภรรยาและลูก ขณะขับรถถึงบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว เวลาประมาณ 11.50 น. ได้มีนายธันวาหรือบิ๊กฯขับขี่รถยนต์กระบะ คันทะเบียน กท-1514 ปทุมธานี มากับ น.ส.นันท์นภัสหรือแอมฯ ภรรยานายธันวาฯ และนายรามัญหรือดำ คงแป้น ส่วนนายไพโรจน์หรือหมุด สีทอง ขับขี่รถจักรยานยนต์ คันทะเบียน 4กค-345 กทม. นำหน้ารถยนต์เก๋งผู้เสียหาย เมื่อถึงที่เกิดเหตุ นายไพโรจน์หรือหมุดฯ ได้หยุดรถจักรยานยนต์ขวางทางเดินรถของผู้เสียหาย นายธันวาหรือบิ๊กฯ หยุดรถปิดท้ายรถผู้เสียหาย จากนั้นนายธันวาฯ ลงจากรถมากระชากประตูรถผู้เสียดึงตัวผู้เสียหายลงจากรถ นายรามัญฯ ลงจากรถเข้าร่วมจับล๊อคแขนผู้เสียหายไว้ นายธันวาฯได้ใช้หมัดชกและใช้เท้าแตะทำร้ายผู้เสียหายจำนวนหลายครั้ง (ปรากฏตามภาพวีดีโอคลิป) จากนั้นผู้ก่อเหตุขับรถหลบหนีไป

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พ.ย.62 นายธันวาหรือบิ๊กฯ นายไพโรจน์หรือหมุดฯ และนายรามัญหรือดำฯ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามกดดันอย่างหนักจึงทนไม่ไหว ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานตำรวจ พนักงานสอบสวนได้รับตัวและแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนตามกฎหมายไว้แล้ว ส่วน น.ส.นันท์นภัสหรือแอม ภรรยาของนายธันวาหรือบิ๊กฯ ได้ติดต่อเข้ามาทางฝ่ายสืบสวนแล้ว แจ้งว่าไปร่วมงานแต่งงานของญาติที่ จ.หนองบัวลำภู เมื่อเสร็จงานแล้วจะรีบเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อต่อสู้คดีตามกฎหมายต่อไป มูลเหตุที่กระทำผิดในครั้งนี้ นายธันวาหรือบิ๊กฯรับสารภาพว่าไม่พอใจและโกรธนายสมบัติฯผู้เสียหาย ที่ได้นำเรื่องค้างค่าจ่ายค่าแรงของญาตินายสมบัติฯ มาแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองปทุมธานี จึงร่วมกันกระทำผิดดังกล่าว

 

ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสามคนรับว่า เป็นบุคคลตามคลิปที่ปรากฎและได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย จริง โดยมีมูลเหตุจากการโกรธแค้นส่วนตัว หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำ/ แจ้งข้อกล่าวหา /นำตัวผู้ต้องหาผลัดฟ้องฝากขังต่อศาลจังหวัดปทุมธานี ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยศาลพิเคราะห์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไปในระหว่างการสอบสวน โดยตีราคาประกันตัวคนละ 32,000 บาท

ธวัชชัย เฟื่องอนันต์ รายงาน