“ธรรมนัส” ลงพื้นที่ นราธิวาส แนะแนวดึงทางเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแบบอย่าง หนุนสถานศึกษา เรียนรู้ผลิตอาหารกลางวัน สร้างรายได้เสริม ให้เด็กนักเรียน
พร้อมเตรียมเสนอ ครม. ดึงวันแมป เข้ามาแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน ทั่วประเทศ ลั่นพร้อมเดินหน้าจัดสรรที่ดิน สปก. ที่เหลือ อีก2 หมื่นไร่จบ ใน180 วัน เน้นเรื่องโปร่งใส ทำไม่ได้ คนเกี่ยวข้องต้องพิจารณาตัวเอง
วันที่ 22 พฤศจิกายน 62 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร ในพื้นที่ พร้อมเยี่ยมชมผลงานของโรงเรียน ณ โรงเรียนนราสิกขาลัย อ.เมืองนราธิวาส และรับฟังปัญหา แนวทางการพัฒนาการศึกษา
ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ มีแนวทางและแนวคิด ที่จะร่วมกับสถานศึกษา โดยให้มีองค์ความรู้ ด้านการเกษตรฯ ให้กับทางโรงเรียน ใช้ในการสอนให้กับเด็กนักเรียน ในเรื่องการส่งเสริมการทำเกษตรกร โดยเฉพาะเรื่องของการส่งเสริมการพัฒนาการเกษตรฯ ที่ยึดแนวเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักคิด เพื่อให้เด็กนักเรียนนำไปเป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะในเรื่อง การปลูกพืชผักสวนครัว เสี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะ ไก่ไข่ ซึ่งจะมีการ ฝึกให้กับเด็กนักเรียน ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยในส่วนการส่งเสริมการปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์ อาจนำมาเป็นอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน และอาจขยายต่อในการส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับเด็กนักเรียน และนำไปพัฒนา สู่แนวทางการ ส่งเสริมการพัฒนาประเทศ ให้มีความมั่นคงในอนาคต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางโรงเรียน บทบาทของโรงเรียนต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต
ขณะเดียวกันยังเดินทางต่อไปยัง ที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี เพื่อพบปะประชาชนและรับฟังปัญหาเรื่องที่ดินและพื้นที่ที่มีปัญหาจากเกษตรกร นอกจากนี้ได้เดินทางไปเยี่ยมชมการแปรรูปข้าว และพบปะเกษตรกรกลุ่มปลูกข้าวหอมกระดังงา ณ บ้านตอหลัง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาจากเกษตรกร ในพื้นที่ จ. นราธิวาส เกษตรกรส่วนใหญ่ ยังมีปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินจำนวนมาก เช่นเดียวกับพื้นที่อื่น ๆทั่วประเทศ โดย ขณะนี้ ตนได้สั่งการให้ทางสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรหรือ (สปก.) เร่งรัดในการจัดรูปที่ดินให้กับเกษตรกร ให้เร็วที่สุด โดยยอมรับว่าการจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกรขณะนี้ค่อนข้างมีปัญหา เนื่องจากมีพื้นที่ทับซ้อนกันจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้มีทั้งพื้นที่อุทยาน พื้นที่กรมป่าไม้ ซึ่งทับซ้อนกันกับพื้นที่ สปก. จำนวนมาก จนเป็นปัญหาต่อการจัดสรรพื้นที่ทำกินให้กับเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาที่เกิดขึ้นเบื้องต้นทางรัฐบาล กำลังเร่งรัดในการแก้ปัญหา ในส่วนพื้นที่ทับซ้อนทั้งหมด โดยจะให้ใช้มาตรตราส่วนเดียวกันทุกหน่วยงาน โดยในอัตราส่วนเดียวกันทั้งหมด คือในมาตราส่วน 1ต่อ4,000 หรือวันแมป เพื่อป้องกันการทับซ้อน โดยจะใช้เป็นมาตราส่วนเดียวกันทุกหน่วยงาน เพื่อไม่ให้เกิดการทับซื้อนเบื้องต้น ตนแสนอแนวทางให้กับนายกรัฐมนตรีรับทราบและเห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยตนจะนำเสนอ ต่อ ครม.ให้เร็วที่สุด และคิดว่า น่าจะเป็นแนวทางที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบยั่งยืนได้ หากในมาตรตราส่วนเดียวกันทุกหน่วยงาน
“ตอนนี้ ค่อนข้างมีปัญหาเพราะ กระทรวงทรัพย์ เขาก็ ได้ อัตราส่วนอีกอย่าง กรมแผนที่ทหารก็ใช้มาตราส่วนอีกอย่างหนึ่ง และหน่วยงานมันใช้แผนที่คนละมาตราส่วน มันเลยช่วยเหลือชาวบ้านไม่ได้ เลยบอกว่าหากต้องการ แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ทุกหน่วยงานต้องใช้มาตราส่วนเดียวกันทั้งหมด วันนี้ผมกราบเรียนให้ท่านนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว ว่าหากต้องการแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อน ต้องขับเคลื่อนเรื่องการ กำหนดอัตราส่วนแผนที่เป็นอันเดียวกันทั้งหมด และให้ทุกหน่วยงานใช้มาตราส่วนเดียวกัน เบื้องต้นท่านเห็นด้วย ซึ่งเราจะเอาวันแมป เข้า ครม. ประกาศเลยว่าจะใช้มาตรส่วนแผนที่เดียวกันทั้งหมด ปัญหาต่างๆ มันถึงจะจบ นราธิวาส ก็ เหมือนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จากนี้ไปผมจะตั้งคณะกรรมการ แก้ปัญหาขับเคลื่อน ให้เป็นรูปธรรม คิดว่าจากนี้ไปมันคงจะไม่มีปัญหาแล้ว โดยที่ปัญหาที่ผ่านมานายกได้กำชับมาโดยตลอด การจัดการปัญหาที่ดินต้องชัดเจน” ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ในส่วนปัญหาที่ดินทำกินของพื้นที่จ. นราธิวาส จากนี้ไป จะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุดและต้องมีความชัดเจนในการ จัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกร และจะต้องมีความโปร่งใส ขณะเดียวกันพื้นที่อื่นๆ การจัดสรรที่ดินก็ต้องมีความโปร่งใสเช่นเดียวกัน โดยจากนี้ไป พื้นที่ สปก. ทั้งหมด ที่เหลืออีก 2 หมื่นกว่าไร่ ต้องมีการจัดสรรที่ชัดเจนและโปร่งใส โดยจะต้องให้จบให้หมดภายใน180 วันให้ได้ หากไม่แล้วเสร็จผู้เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาตัวเอง ไม่งั้น ตอบสังคมไม่ได้ ทุกอย่างต้องจบและต้องโปร่งใส