อธิบดีกรมปศุสัตว์ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ข่าวโชเซี่ยลแฉ ด่านกักกันสัตว์สงขลาทำลายไก่ ซึ่งลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านผิดวิธี ลั่นหากพบว่ามีความผิดจริงฟันไม่เลี้ยง!!
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวถึงกรณีที่มีภาพและข่าวปรากฎทางสื่อออนไลน์ว่า ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ด่านกักกันสัตว์สงขลา ยึดสัตว์ของกลางเป็นไก่ 3,984 ตัวนำมากักขังไว้ในกรง ตากแดด ไม่มีอาหารและน้ำ จากนั้นทำลายโดยการฝังกลบขณะยังมีชีวิต ซึ่งนางสาวธัญทิตย์ สิสม นายสัตวแพทย์ชำนาญการ รักษาการในตำแหน่ง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สงขลา รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์และเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์สงขลาร่วมกันยึดอายัดสัตว์ไก่ที่มีผู้ลักลอบ นำสัตว์เข้าผ่านพื้นที่เขตอารักขาของด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ตำบลสะเดา จังหวัดสงขลา โดยบรรจุในตะกร้าพลาสติก 664 ใบ ซึ่งผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558
จากนั้นนำของกลางมากักไว้ภายในพื้นที่ด่านกักกันสัตว์สงขลา ในเวลาประมาณ 23.00 น. โดยไก่ยังอยู่ในตะกร้าพลาสติกทั้งหมด วางไว้ใต้ต้นไม้ซึ่งมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ต่อมาในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 08.30 น. ไก่ของกลางเริ่มทยอยตาย สัตวแพทย์ประจำด่านกักกันสัตว์สงขลา จึงได้ตรวจสุขภาพเบื้องต้นพบว่า มีอาการหอบ หายใจรุนแรง พิจารณาแล้วสงสัยว่า อาจเป็นโรคระบาดเนื่องจากไม่มีการขออนุญาตนำเข้า ไม่มีเอกสารยืนยันแหล่งที่มา ไม่มีหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์ (Health Certificate) และไม่ผ่านการตรวจสอบจากประเทศต้นทาง ประกอบกับจังหวัดสงขลาได้ประกาศเป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาดชนิดไข้หวัดนกในสัตว์ปีกจำพวก นก ไก่ เป็ดและห่าน รวมถึงน้ำเชื้อสำหรับผสมพันธุ์และไข่สำหรับใช้ทำพันธุ์ จึงประสานไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคใต้ตอนล่างร่วมผ่าพิสูจน์ซากไก่ที่ตาย
เบื้องต้นพบความผิดปกติในระบบทางเดินหายใจ โดยมีจุดเลือดออกที่หลอดลมซึ่งพบได้ในโรคไข้หวัดนก พบก้อนหนองที่ปอดและช่องท้องซึ่งพบได้ของโรคนิวคาสเซิลและโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง (Chronic Respiratory Disease, C.R.D.)) ตับและม้ามโตผิดปกติซึ่งสงสัยติดเชื้อ Salmonella) จึงทำการเก็บตัวอย่างส่งตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ต่อมากด่านกักกันสัตว์สงขลาพิจารณาแล้วเห็นว่า ไก่ของกลางดังกล่าวสงสัยว่า เป็นโรคระบาด หากปล่อยไว้เนิ่นนานอาจทำให้โรคแพร่กระจายออกไป ซึ่งจะก่อให้ความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีกของประเทศไทยได้ จึงได้ทำลายของกลางดังกล่าว ด้วยวิธีการดึงคอให้ไก่หมดความรู้สึกอย่างรวดเร็วตามหลักการการุณยฆาต แล้วนำซากไก่ทั้งหมดฝังในหลุม โดยปฏิบัติภายใต้ระเบียบกรมปศุสัตว์ ว่าด้วยการดำเนินการกับสัตว์หรือซากสัตว์ของกลางที่เป็นโรคระบาดหรือเป็นพาหะของโรคระบาด ซึ่งถูกยึดหรืออายัดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์หรือตามกฎหมายอื่น พ.ศ. 2558
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนว่า ปรากฏภาพขณะเจ้าหน้าที่ฝังกลบไก่ โดยที่ไก่ยังไม่ตาย ทำให้ผู้พบเห็น รู้สึกไม่สบายใจและสะเทือนความรู้สึก จึงสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวด่วนที่สุด หากปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ฝังไก่โดยไม่ทำลายตามหลักการการุณยฆาตก่อนซึ่งหลักเกณฑ์และวิธีการทำลายสัตว์ตามประกาศของกรมปศุสัตว์จะลงโทษตามระเบียบต่อไป